ก.เกษตรฯดึง 20 ชาติเป็นคู่ค้ายางพาราไทย

กรุงเทพฯ 24 มิ.ย.- กระทรวงเกษตรฯใช้นโยบายการตลาดนำการผลิต ดึงทูต 20 ประเทศและผู้ค้า กว่า 70 ราย ลงพื้นที่ กระบี่-ตรัง ดูศักยภาพการผลิตยางพารา หวังได้คู่ค้าใหม่ ช่วยลดปัญหายางล้นตลาดและราคาตกต่ำ 
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เพื่อขยายคู่ค้ายางพาราในตลาดโลกให้กว้างยิ่งขึ้น  ตามนโยบาย  “ตลาดนำการผลิต”  ของนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ล่าสุดทางกระทรวงเกษตรฯ ได้เชิญทูตและผู้ประกอบการยางกว่า 70 คน จาก 20 ประเทศ โดยเฉพาะผู้นำเข้ายางรายใหม่ เช่น เม็กซิโก อินเดีย และอิหร่าน เป็นต้น ลงพื้นที่ จังหวัดกระบี่และจังหวัดตรัง ศึกษาดูงานการผลิตและแปรรูปยางทั้งระบบในพื้นที่  โดยที่จังหวัดตรัง ได้รับทราบการผลิตยางแผ่นรมควัน มาตรฐาน GMP ยางเกรดพรีเมี่ยม การผลิตภัณฑ์ยางอัดก้อน และการดำเนินงานของบริษัทเอกชน ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากยางแหล่งผลิตยางสำคัญ พร้อมจัดการประชุมโครงการสร้างเสริมศักยภาพเพื่อขยายตลาดคู่ค้ายางพาราไทย ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 28 – 30 มิถุนายนนี้  เพื่อชี้แจงนโยบายของรัฐบาลไทย และมาตรการต่างๆ ของกระทรวงเกษตรฯ ในการพัฒนายางพาราของไทย ทั้งด้านการผลิต การแปรรูปวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ยางพาราของไทยที่มีมาตรฐาน คุณภาพ และความหลากหลาย จนทำให้ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้นำการผลิตและส่งออกยางคุณภาพรายใหญ่ของโลกให้นานาประเทศที่ร่วมงานครั้งนี้ได้รับทราบ และในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)จะจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Bussiness Matching) ระหว่างสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตยาง กับผู้ประกอบการยางต่างประเทศ อีกด้วย
“กระทรวงเกษตรฯ คาดหวังว่า การดำเนินการครั้งนี้ จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการยางจากต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้นำเข้ารายใหม่จากประเทศเดิมจะมีมากขึ้น เพราะได้รับทราบข้อมูลทั้งในเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และที่สำคัญ คือ ความหลากหลายของยางพาราไทย ที่ไม่เพียงการผลิตในขั้นต้นเป็นเพียงน้ำยางดิบเท่านั้น แต่ไทยสามารถพัฒนาไปสู่การแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราตามความต้องการของตลาดได้ รวมถึงคณะทูตานุทูตที่ร่วมงานครั้งนี้จะช่วยเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ยางพาราไทยให้เป็นที่รู้จักของต่างประเทศอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการขยายช่องทางการค้าสินค้ายางพาราไทย และส่งผลต่อราคายางพาราในประเทศเพิ่มสูงขึ้นได้อีกทางหนึ่ง และหากกิจกรรมนี้ ประสบผลสำเร็จด้วยดี เกษตรกร จะได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งลดปัญหายางล้นตลาดและราคายางตกต่ำได้ และยังช่วยให้มั่นใจได้ว่า สินค้าทางการเกษตรที่ผลิต ตรงกับความต้องการของตลาด มีตลาดรองรับ  ช่วยสร้างอาชีพ และส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ก็นำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนการผลิต ให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น” นายเลิศวิโรจน์ กล่าว-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง