กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.- รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมเสนอใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ หลังพบ 19 บริษัทเข้าข่ายความผิดซึ่งส่วนใหญ่เป็นของต่างชาติ
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับผู้ลักลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกเข้าประเทศไทยว่า ขณะนี้ตรวจสอบพบ 19 บริษัทที่เข้าข่ายความผิด โดย 15 บริษัทเป็นของนักลงทุนชาวต่างชาติ ส่วนอีก 4 บริษัทใช้คนไทยเป็นนอมินีในการถือหุ้นแทน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนไทยทำหน้าที่ในการช่วยเหลือตกแต่งบัญชีเพื่อหลีกเลี่ยงสรรพากรอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีใครบ้างเพื่อดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.อ.วิระชัย ยอมรับด้วยว่าส่วนใหญ่มีนายทุนชาวต่างชาติให้คนไทยถือครองในลักษณะนอมินี จึงทำให้การดำเนินคดีกับนายทุนชาวต่างชาติทำได้ยาก ขณะนี้สามารถดำเนินคดีได้เพียงแต่ผู้ถือหุ้นเท่านั้น เตรียมเสนอใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ หลังมีข้อติดขัดในการใช้บังคับใช้ข้อกฎหมายของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกจำนวนมากที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศไทย จะมีการผลักดันให้ส่งกลับยังประเทศต้นทาง โดยบริษัทที่นำเข้ามาต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ ตั้งแต่การจับกุมพบมีขยะพิษจากทั่วโลกที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายไม่น้อยกว่า 5 แสนตัน ทำให้มีสารพิษตกค้างเกินครึ่งของขยะที่มีอยู่ เกิดเป็นมลภาวะอันตรายปนเปื้อนลงในดินและแหล่งน้ำ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย