กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – กรมศุลกากร-กรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจยึดเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าจากต่างประเทศ น้ำหนัก 238 ตัน มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท เตรียมขยายผลตรวจโรงงานนำเข้า 2 แห่งใน จ.สมุทรสาคร มองไม่กระทบเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร, นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมด้วย การท่าเรือแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงการตรวจยึดเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าจากต่างประเทศ น้ำหนัก 238 ตัน มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ กรมศุลกากร
นายธีรัชย์ เปิดเผยว่า การตรวจยึดครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ และกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อควบคุมการนำเข้าสินค้าที่เข้าข่ายของเสียอันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซล โดยได้ตรวจสอบตู้สินค้าที่สำแดงเป็นเศษอะลูมิเนียมที่ยังไม่คัดแยก (MIXED METAL SCRAP: ALUMINIUM, COPPER, IRON) ประเทศต้นทางจากสหรัฐอเมริกา มูลค่าสำแดง 519,278.18 USD หรือ 17,592,261.97 บาท น้ำหนักสุทธิ 238,201 กิโลกรัม บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต จำนวน 10 ตู้ ผลการตรวจสอบพบว่าสินค้าดังกล่าวเข้าข่ายเป็นเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ น้ำหนักตรงตามสำแดง ซึ่งจัดเป็นของเสียอันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด


กรณีนี้เป็นการนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อจำกัด ด้วยการสำแดงชนิดของ และประเภทพิกัดเป็นเท็จ เป็นความผิดฐานสำแดงเท็จหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อจำกัด ตามมาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2563 และประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 บัญชีที่ 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ ลำดับที่ 2.18และอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด ถือเป็นการตรวจยึดเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าจากต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดของปี 2568
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจยึดครั้งนี้มองว่าจะไม่กระทบต่อการเจรจาทางการค้าสหรัฐ-ไทย ไทย เนื่องจากเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรจะบูรณาการการทำงานร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ในการควบคุมและป้องกันการนำของเสียอันตรายเข้าสู่ประเทศ เพื่อความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
สำหรับสถิติในการจับกุมขยะอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากรในปีงบประมาณ 2568 (เดือนตุลาคม 2567 – เมษายน 2568) สามารถจับกุมการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ 99.31 ตัน มูลค่า 2.13 ล้านบาท
ด้านนายสุนทร ระบุว่าประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้เป็นประเทศสมาชิกตามอนุสัญญาบาเซล จึงไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายมายังประเทศไทยได้ โดยหลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบขยายผลไปยังโรงงานอุตสาหกรรมที่นำเข้าเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว เบื้องต้น พบว่าเป็นโรงงานรีไซเคิล 2 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร โดยจะต้องตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตนำเข้าที่ถูกต้องหรือไม่ และสินค้าที่นำเข้าผิดกฎหมายหรือไม่.-516-สำนักข่าวไทย