กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – หลังหลบเลี่ยงตอบคำถาม และไม่ชี้แจงประเด็นทางศาสนากับสื่อมานาน นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งรอบ 2 วันนี้ ผอ.พศ.ตอบชัดทุกข้อสงสัย พร้อมยืนยัน พศ.ไม่มีอำนาจไปจัดการในทุกเรื่องของสงฆ์ เพียงแต่เป็นชาวพุทธที่ต้องการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
ถือเป็นครั้งแรกที่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงชัดทุกประเด็นสงสัยเกี่ยวกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับคณะสงฆ์ และสถานการณ์พระพุทธศาสนาไทยในปัจจุบัน ตั้งแต่เกิดเรื่องจับสึกพระผู้ใหญ่ ทั้งที่คดียังไม่ถึงที่สุด การทุจริตเงินทอนวัด และคำสั่งห้ามพระจับเงิน จนเกิดการไม่ลงรอยกัน ระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และคณะสงฆ์บางส่วน จนอาจลุกลามไปสู่การออกมาเคลื่อนไหว วันนี้ ผอ.พศ. ย้ำเสียงดังฟังชัดว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ไม่มีอำนาจไปสั่งพระทุกกรณี ไม่อยากให้เชื่อข่าวลือ การออกคำสั่งเพื่อต้องการหาวัดตัวอย่างที่พระไม่จับเงิน ไม่มีเจตนาอย่างอื่น แต่มีความพยายามจากบางกลุ่มที่นำไปตีความ จนนำมาซึ่งความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และผลจากการสำรวจก็พบวัดที่พระไม่จับเงินจับทองแล้ว ซึ่งถือว่าถูกต้องตามพระธรรมวินัย
ส่วนการเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ที่ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เร่งดำเนินคดีกับข้าราชการที่ทุจริตเงินทอนวัดนั้น ยืนยันว่าไม่เคยละเลย ล่าสุดมีการเอาผิดทางวินัย โดยการไล่ออกข้าราชการที่ทุจริตเงินทอนวัดเกือบทุกคนแล้ว เหลือบางส่วนที่รอผลทางกระบวนการยุติธรรม พร้อมอธิบายพฤติการณ์กระทำความผิดในกรณีทุจริตงบประมาณอุดหนุนวัด แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ หากงบนั้น เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ไปขอทอนจากวัด ถือว่าเจ้าหน้าที่ผิด ส่วนที่ 2 หากวัดได้รับงบจาก พศ. และมีการยักย้ายถ่ายเท ถือว่าเข้าข่ายฟอกเงิน ย้ำว่ากฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยไม่มีข้อยกเว้น คนผิดต้องได้รับการลงโทษ หากบริสุทธิ์ต้องได้รับความคุ้มครอง
สำหรับการสืบสวนคดีทุจริตเงินทอนวัด ลอต 4 ใน 30 วัดทั่วประเทศ ล่าสุดพบว่า ปปป.อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจน และยังไม่ส่งหนังสือมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับวัดหรือเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม
ผอ.พศ.พูดย้ำตบท้ายว่า หากวัดใดพบว่ามีการขอทอนเงินจากข้าราชการ พศ. ให้แจ้งมาที่ พศ.ได้ทันที เพราะในสมัยที่ตนเองเป็น ผอ.พศ. ต้องปราศจากเงินทอนวัด หากพบข้าราชการทำผิดจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด. – สำนักข่าวไทย