ผอ.พศ.แถลงชี้แจงไม่ห้ามพระจับเงิน แค่หาวัดตัวอย่าง

พุทธมณฑล 20 มิ.ย.-ผอ.พศ.ชี้แจงทุกประเด็น ยืนยันไม่ได้ห้ามพระจับเงิน เพียงหาวัดตัวอย่าง พร้อมวอนสังคม อย่าเชื่อข่าวลือ ขณะที่มีมติไล่ออก ข้าราชการพศ.ที่ทุจริตเงินทอนแล้วเกือบทุกคน 


การประชุมมหาเถรสมาคม(มส.)ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม วันนี้ (20 มิ.ย.) มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานการประชุม โดยใช้เวลา 30 นาที หลังจากนั้น พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) และนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ในฐานะรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวชี้แจงทุกประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์สงฆ์และพระพุทธศาสนาขณะนี้ 


เริ่มจากรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  ชี้แจงประเด็นที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าว คำสั่งของพระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะประธานกรรมการวัดสัมพันธวงศาราม มีคำสั่งให้จัดระเบียบวัดสัมพันธวงศ์ มีการพาดหัวข่าวที่รุนแรงว่าพระพรหมมุนี เพื่อนเก่า อดีตพระพรหมเมธี สั่งการล้างวัดสัมพันธวงศ์ แถมขับคนสนิท 3 รูปพ้นจากวัด  เรื่องดังกล่าวไม่ตรงข้อเท็จจริง หากไม่มีการบอกกล่าวต่อสื่อมวลชน เกรงว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย โดยพระพรหมมุนีได้จัดทำแถลงการณ์ เป็นเอกสารชี้แจงต่อสื่อว่า 

การเข้าดูแลวัดเพื่อความเรียบร้อยเท่านั้น ขณะที่ของใช้อดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาคดีเงินทอน ให้จัดเก็บ ลงทะเบียนไว้ชัดเจนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ส่วนเรื่องพระ 3 รูปนั้น เป็นการพิจารณาของคณะกรรมการวัด เนื่องจากทางวัดเห็นว่าพระทั้ง 3 รูป ซึ่งเป็นพระอาคันตุกะ ที่เข้ามาอยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์ แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีเงินทอนวัด ดังนั้นมติของวัดจึงให้ดูพฤติกรรมเป็นเวลา 3 เดือนก่อน เพื่อให้ปรับปรุงตัวใหม่ ให้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยให้เรียบร้อย แล้วค่อยพูดคุยกันอีกที การที่พระพรหมมุนี ไปเป็นประธานกรรมการวัดสัมพันธวงศ์ เนื่องจากมีผู้ใหญ่ร้องขอมาให้เข้าไปช่วยกำกับดูแล 


ส่วนการที่คณะสงฆ์คณะธรรมยุตแต่งตั้ง พระเทพสังวรญาณ (จิรพล อธิจิตฺโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ นั้น เนื่องจากสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) เจ้าอาวาสวัดสัมพัธวงศ์ ท่านอาพาธ ส่วนการที่ตั้งพระสงฆ์จากวัดบวรฯ มาเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์นั้น เพราะพระสงฆ์จากวัดสัมพันธวงศ์เป็นสายมาจากวัดบวรฯ 

ส่วนการประชุมกรรมการวัด ตนไปนั่งเป็นประธาน และรับฟังเท่านั้น ทั้งยังบอกด้วยว่าจะทำอะไรให้ประนีประนอมกัน ให้เกิดความสงบในวัด ตอนนี้วัดช้ำพอแล้ว ให้ฟื้นฟูวัดให้ดี และช่วงนี้ให้ประชุมทุกเดือน ได้มีการแบ่งหน้าที่กันจัดระเบียบภายในวัดให้เรียบร้อย ให้ช่วยกันรักษาวัด แบ่งหน้าที่กันใครดูแลอะไร จะบูรณะอะไรให้วางแผนกันให้ดี 

หลังจากนั้น พ.ต.ท.พงศ์พร เปิดให้โอกาสให้สื่อมวลชนซักถามทุกประเด็น เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับคณะสงฆ์ และชี้แจงว่าอยากให้ทุกฝ่ายใช้หลักกาลามสูตรหรือหลักทางพระพุทธศาสนาพิจารณาให้รอบคอบ ไม่อยากให้ไปเชื่อข่าวลือ ยืนยันว่าพศ.ไม่มีอำนาจไปจัดการหรือตรวจสอบบัญชีวัด รวมถึงสั่งห้ามพระจับเงิน คำสั่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพระต้องออกมากจากมติของมหาเถรสมาคม (มส.)เท่านั้น ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ พร้อมย้ำว่าต้องการหาวัดตัวอย่างที่พระไม่จับเงิน ซึ่งเป็นไปตามหลักพระธรรมวินัยเท่านั้น ไม่มีเจตนาอย่างอื่น จากการสำรวจพบว่ามีวัดตัวอย่างแล้วที่พระไม่จับเงินแล้ว แต่ยังขอไม่เปิดเผยจำนวนและรายชื่อวัด 

ทั้งนี้อยากให้ชาวพุทธวิเคราะห์อย่างละเอียดถึงคำสั่งดังกล่าวเพราะที่ผ่านมากลับมีบางกลุ่มนำไปตีความทำให้เก้ดเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจะนำมาซึ่งความแตกแยกได้ อยากให้คณะสงฆ์สบายใจได้ว่า พศ.ไม่มีอำนาจห้ามพระจับเงิน และตนไม่ใช่ยักษ์ใช่มาร เป็นชาวพุทธฯ ไม่ใช่พราหมณ์ อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ เพียงแค่นามสกุลพราหมณ์เสน่ห์เท่านั้นบุคคลใดที่ปล่อยข่าวลือ อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวได้ถูกดำเนินคดีทุกคน การพูดปากต่อปาก ทำให้เกิดความหวั่นไหวไปหมด 

ส่วนการลงโทษทางวินัยข้าราชการ พศ.ที่ทุจริตเงินทอนวัดนั้น ผอ.พศ.กล่าวว่า ได้ไล่ออกจากราชการเกือบทุกคนแล้ว มีเพียงบางส่วนที่ยังรอผลสอบสวนทางกระบวนการยุติธรรมอยู่  ส่วนการเข้าแจ้งความวัดหรือเจ้าหน้าที่ พศ.ที่ทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 กับทาง ปปป.นั้น ทางตำรวจปปป.ยังไม่ได้ทำหนังสือถึงตน ต้องรอผลการสืบสวนและหาพยาน หลักฐานให้ชัดเจนก่อน จึงยังไม่ทราบว่าจะต้องไปแจ้งความร้องทุกข์วันไหน ไม่สามารถตอบได้ พร้อมฝากแจ้งไปยังวัดทั่วประเทศหากพบพฤติการณ์เจ้าหน้าที่ พศ.เรียกขอเงินทอนวัดอีกให้แจ้งโดยตรงมายังตนได้เลย สมัยของตนต้องไม่มีเงินทอน หากมีจะจัดการอย่างเด็ดขาด 

นอกจากนี้ ผอ.พศ.กล่าวย้ำว่า การกระทำความผิดในกรณีทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนวัด หรืองบประมาณแผ่นดิน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. หากงบฯนั้น เจ้าหน้าที่ พศ.ของทอนเงิน เจ้าหน้าที่ผิด 2.หากวัดได้รับงบและมีการยักย้ายถ่ายเท ถือเป็นการฟอกเงิน วัดคือฝ่ายผิด อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าเป็นไปตามกฏหมาย ป.วิอาญาหรือกฏหมายบ้านเมือง

ไม่มีข้อยกเว้น คนบริสุทธิ์ ต้องได้รับความคุ้มครอง คนผิดต้องได้รับการลงโทษ หนี้สินหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องได้รับการชดใช้ 

ส่วนการดำเนินการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมในการติดตามตัว ขณะที่มีภาพพระมหาศาสนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หรือเจ้าคุณแป๊ะ แต่งกายชุดฆราวาส คู่กับผู้หญิง เผยแพร่ทางไลน์และทางโซเซียลนั้น พศ.ยังไม่ได้รายงานและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งท่านลาสิกขาหรือยัง ต้องตรวจสอบก่อน จึงไม่สามารถตอบได้ แต่หากมีข้อมูลชัดเจนต้องส่งเรื่องให้พระสังฆาธิการทันที.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

Vietnam's Halong Bay boat disaster

พายุ “วิภา” ทำเรือท่องเที่ยวล่มในเวียดนาม

ฮานอย 20 ก.ค.- เกิดอุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองหรือฮาลองเบย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 คน และยังไม่พบตัวอีก 5 คน หนังสือพิมพ์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์ของเวียดนามรายงานว่า เรือท่องเที่ยวชื่อวันเดอร์ซี (Wonder Sea) พลิกคว่ำในอ่าวฮาลองเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย เป็นช่วงที่พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) เคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้เข้าใกล้เวียดนาม มีรายงานกระแสลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุบนเรือมีชาวเวียดนามทั้งหมด 53 คน เป็นลูกเรือ 5 คน และผู้โดยสาร 48 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงฮานอย ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวฮาลองไปทางตะวันตกราว 165 กิโลเมตร และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ 10 คน และพบศพใกล้จุดที่เรืออับปาง โดยพบศพเด็กแล้ว 8 คน และยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่ 5 คน ท่ามกลางฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นอุปสรรคต่อภารกิจค้นหาและกู้ภัย นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ […]