ธอส.จับมือพันธมิตรจัดงานบ้าน “ธอส. เอ็กซ์โป@กรุงเทพฯ”

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – ธอส.จับมือพันธมิตรจัดงานบ้าน ธอส. เอ็กซ์โป 2561 นำสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 6,500 ล้านบาท  ลดค่าธรรมเนียมสูงสุด ลดกระหน่ำบ้านใหม่ บ้านมือสอง และบ้านหลุดจำนองกว่า 10,000 รายการ ร่วมกับ อสมท แจกรางวัลผู้มาร่วมงาน 



นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 65 ปีของการดำเนินงานในวันที่ 24 กันยายน 2561 และสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้เข้าถึงที่อยู่อาศัยกำหนดจัดงาน “บ้าน ธอส. เอ็กซ์โป ประจำปี 2561 : GH Bank Expo 2018”  ระหว่างวันที่ 5 – 8 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ธอส.จัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ กว่า 50 โครงการ และผนึกกำลังจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนตามแนวทางประชารัฐ เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัย


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. เปิดเผยว่า การจัดงานภายใต้แนวคิด Next Station to Digital Service Station 360 องศา ครบทุกมิติความต้องการเรื่องบ้าน เนื่องจากรวบรวมโปรโมชั่นพิเศษทั้งของ ธอส.และหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมกว่า 80 บูธ พร้อมใจกันจัดทำขึ้นเพื่อให้คนไทยมีบ้าน  ในส่วนของ ธอส.เตรียมสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษวงเงิน 6,500 ล้านบาท กรณีกู้ซื้อ/สร้างที่อยู่อาศัยกับบริษัทและบริษัทในเครือหรือหน่วยงานที่เข้าร่วมออกบูธไม่ต้องจองสิทธิ์ ยื่นคำขอกู้ภายในงานระหว่างวันที่ 5 – 8 กรกฎาคม 2561 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม 4 ฟรี ได้แก่ ฟรีค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน ทุกวงเงินกู้  ฟรีค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และฟรีค่าจดทะเบียนจำนองร้อยละ 1 ของวงเงินกู้ตามสัญญา

นอกจากนี้ ยังเตรียมเสนอบอร์ด ธอส.พิจาณาสำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน สามารถขอสินเชื่อซื้อบ้าน NPA ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0 เป็นเวลา 60 เดือน สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ภายในงานพร้อมยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในระยะเวลาและเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด กรณีวงเงินกู้ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท จำนวน 200 ท่านแรก คิดดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกร้อยละ 3.15 ขณะที่ดอกเบี้ยในระบบเฉลี่ยร้อยละ 3.4 หากกู้ซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท ผ่อนชำระประมาณ 4,000 บาทต่อเดือน คาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังคงตรึงดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 แม้ กนง.อาจต้องปรับเพิ่มไตรมาส 4 ขณะที่ ธอส.พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดภาระให้กับลูกค้าผู้ซื้อบ้าน สำหรับผลการปล่อยสินเชื่อ คาดว่าสัปดาห์หน้ายอดสินเชื่อจะครบ 100,000 ล้านบาท และมั่นใจจะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย 189,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ยอด NPL ปัจจุบันร้อยละ 4.3

ส่วนเงินฝากออมทรัพย์  รับดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 1.80 ต่อปี สำหรับลูกค้าเงินฝากคงเหลือไม่เ กิน 1 ล้านบาท เพียงจองสิทธิ์เงินฝากภายในงานและเปิดบัญชีเงินฝากครั้งแรกขั้ นต่ำ 500 บาท ที่สาขาของ ธอส. ภายในวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 จะได้รับของสมนาคุณและรับบัตร ATM ฟรี พร้อมได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกบัตรและค่าธรรมเนียมราย ปีในปีแรก รวมทั้งยังลดกระหน่ำบ้านใหม่ บ้านมือสอง และบ้านหลุดจำนองรวมกว่า 10,000 รายการ พบกับบรรดาผู้ประกอบการอสังหาริ มทรัพย์ที่นำโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ทุกระดับราคามากกว่า 50 โครงการ  ในส่วนเปิดจำหน่ายทรัพย์ NPA ทุกประเภทจากสถาบันการเงินของรัฐ ขณะที่ ธอส. เตรียมลดราคาจำหน่ายทรัพย์สูงสุดถึงร้อยละ 50 จากราคาปกติ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน เอสเอ็มอีแบงก์ เอ็กซิมแบงก์ ธนาคารอิสลาม และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย รวมถึงบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (BAM) และบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) มาร่วมจำหน่ายจำนวนมาก


นอกจากนี้ ยังประมูลทรัพย์จากกรมบังคับคดี วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 และงานประมูลทรัพย์ของ ธอส.วันที่ 5 และ 8 กรกฎาคม 2561 วันละ 250 รายการ โดยทรัพย์ที่ออกประมูลให้ส่วนลดสูงสุดร้อยละ 60 จากราคาปกติ นอกจากนี้ ผู้ซื้อทรัพย์ หรือผู้ที่ชนะการประมูลทรัพย์ NPA ของ ธอส. ยังมีสิทธิ์รับมาตรการพิเศษ ผ่อนดาวน์ดอกเบี้ยร้อยละ 0 นานสูงสุด 48 เดือน (เฉพาะทรัพย์รายการที่ธนาคารกำห นด) หรือหากเทเงินดาวน์ร้อยละ 20 ของราคาซื้อขาย ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 80 รับสินเชื่อดอกเบี้ยร้อยละ 0 นาน 24 เดือน วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 80   

ทั้งนี้ ธอส.ยังได้ร่วมกับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สนุกลุ้นรับส่วนลด ของรางวัล และความบันเทิง รับ Privilege Coupon สิทธิพิเศษจากบริษัท/ร้านค้าที่ มาร่วมออกบูธในงานได้ง่าย ๆ เพียง Scan QR Code  “GH Bank Expo 2018” ที่จะปรากฏในรายการต่าง ๆ ทางช่อง MCOT HD และช่อง MCOT Family 14 ระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน – 8 กรกฎาคม 2561 นอกจากนี้ ภายในงานบนพื้นที่ของเวทีกลางยังจัดให้มีการพูดคุยศาสตร์ลายเซ็น ตัวเลข ฮวงจุ้ย กับซินแสชื่อดังระดับประเทศ ซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร และอาจารย์ธนากร ตันอาวัชนการ หรือซินแสมังกร การแสดงของ ศิลปินดาราชื่อดังนำโดยณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา กิจกรรมสอนวาดภาพสีน้ำ ฝึกสมาธิ และเกมลุ้นรับรางวัลของที่ระลึก สุดพิเศษมากมาย และเพื่อก้าวเข้าสู่เทคโนโลยีดิจิทัล  ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยยุค 4.0 อาทิ เครื่องรับเงินฝากประชารัฐ : GHB Mobile Deposit อำนวยความสะดวกในการรับฝากเงินน อกสถานที่ เครื่องชำระหนี้เงินกู้ไร้เงินส ด : QR Non Cash Payment  ลูกค้าสามารถชำระหนี้เงินกู้ ธอส.โดยใช้  Mobile Application ของธนาคารต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ เพียงสแกน QR Code พร้อมสาธิตการใช้งาน GHB Mobile Application เป็นแอปพลิเคชันใหม่ของ ธอส.ที่ให้บริการลูกค้าได้ครบวงจร 

ทั้งนี้ นอกจาก“งานบ้าน ธอส.เอ็กซ์โป @ กรุงเทพฯ” ธนาคารยังกำหนดจัดงานในพื้นที่ภู มิภาค 5 จังหวัด หัวเมืองหลักเพื่อสร้างโอกาสทำใ ห้คนไทยมีบ้านทุกพื้นที่ ประกอบด้วย จ.พิษณุโลก ระหว่างวันที่ 13 – 15 กรกฎาคม 2561 จ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 20 – 22 กรกฎาคม 2561 จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 2 – 5 สิงหาคม 2561 จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 13 – 15 สิงหาคม 2561 จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24 – 26 สิงหาคม 2561 และจ.สงขลา ระหว่างวันที่ 7 – 9 กันยายน 2561 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี ลั่นไม่ถอยกำลังทหาร

กองทัพบก 4 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวังถก GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้หากสองประเทศยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกันก็จบง่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็คาดหวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หาข้อตกลงร่วมกันให้ดีที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลสถานการณ์ชายแดน หลังวันที่ 7 สิงหาคม จะมีความตึงเครียดนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้นำทั้งสองประเทศ จะเจอกันตรงจุดไหน หากยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ก็จบง่าย ซึ่งตอนนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา” สำหรับการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพทั้งสองประเทศได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ที่สองรัฐบาลได้พูดคุยกันไว้เพื่อความสงบสุขบริเวณชายแดน ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องโดรนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการติดตามกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นสายลับ และไส้ศึก […]

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]

EOD ทำลายวัตถุระเบิด ใกล้ปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ 4 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้จรวด BM 21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกและฝังอยู่ในพื้นถนนกันทรลักษ์อีกจุด ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่วันที่ 24 ก.ค. เช่นเดียวกัน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บวัตถุระเบิดหรือ EOD จากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ แล้วตกลงไปฝังอยู่ในถนน กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ เป็นจรวด BM 21 ที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. บ้านผือ ระเบิดจุดนี้ อยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ประเมาณ 500 เมตร และห่างจากจุดที่มีการเก็บกู้ จรวดบีเอ็ม 21 บนถนนกันทรลักษ์ลูกแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม […]