ก.แรงงาน 20 มิ.ย.-ผู้ประกอบการ นายจ้าง เรียกร้องปลดล็อกอาชีพสงวนเฉพาะคนไทย ‘ขายของหน้าร้าน’ ให้ต่างด้าว 3 สัญชาติทำได้ เพื่อลดปัญหาขาดแรงงาน และกระทำผิดกฎหมาย ป้องกันคอร์รัปชั่น
นายก่อพงษ์ ธารสุวรรณ ตัวแทนนายจ้างที่ต้องใช้แรงงานต่างด้าว ร่วมกับนายจ้าง ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ประกอบการขายของในห้างและตามร้านค้าทั่วไป ประมาณ 200 คน เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการนโยบายด้านบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว โดยมีนายสมบัติ นิเวศรัตน์ รองอธิบดีกรมการจัดหางานมารับเรื่องแทน พร้อมระบุในปัจจุบันที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความต้องการและจำเป็นต้องใช้แรงงานในตำแหน่งพนักงานขายของหน้าร้านเพราะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนักเนื่องจากแรงงานไทยไม่ทำงานนี้ ด้วยเหตุผลคนไทยมีศักยภาพความรู้ความสามารถเพิ่มสูงขึ้นและมีทางเลือกมากขึ้น และนิยมเลือกงานที่สบาย พร้อมสวัสดิการที่ดีกว่า
นายก่อพงษ์ กล่าวว่า กฎหมายผ่อนผันให้คนต่างด้าวใน 3 สัญชาติ คือพม่า ลาว กัมพูชา ทำงานได้ 2 ประเภทงาน คือกรรมกรและผู้รับใช้ในบ้านเท่านั้น การจ้างแรงงานต่างด้าวขายของหน้าร้าน เปรียบเสมือนการทำผิดกฎหมายเรื่อยมาและยังเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกรับสินบนกับผู้ประกอบการนายจ้าง อีกทั้งปัจจุบันอัตราโทษรุนแรง ผู้ประกอบการที่จำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าว จึงอยากให้คณะกรรมการฯ ทบทวนความเห็นเกี่ยวกับการกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าว
โดยขอเสนอให้ประเภทงานขายของหน้าร้าน แม้จะเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย แต่ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว สามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขคือ
1. ต้องมีนายจ้างเป็นคนไทย 2. คนต่างด้าวต้องไม่เป็นเจ้าของกิจการเอง
3. ในสถานประกอบการจะต้อง มีคนไทยอย่างน้อยหนึ่งคน 4.สถานประกอบการต้องจดทะเบียนพาณิชย์และชำระภาษีประจำปี
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการฯเห็นว่าไม่ควรผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวขายของหน้าร้านได้ก็ขอให้มีคำนิยามขยายความให้ กรรมกรในสถานประกอบการให้สามารถรับเงินและทอนเงินได้ เพื่อให้ลูกจ้างต่างด้าวสามารถขายของแทนนายจ้างได้ เมื่อจำเป็น กลุ่มตัวแทนนายจ้างให้การแก้ปัญหานี้เป็นการปิดช่องทางให้เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์และป้องกันปัญหาคอร์รัปชั่นที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลคสช. .-สำนักข่าวไทย