ลุ้นพีดีพีใหม่หนุนพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – SUPER ลุ้นพีดีพีใหม่ รัฐบาลจะหนุนพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 30 รวมถึงส่งเสริมค่าไฟฟ้าให้แข่งขันได้กับเชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคต มั่นใจรายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 พร้อมลงทุนหมื่นล้านบาทในไทยและเวียดนามปีหน้า  


นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนรอแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี หรือพีดีพี ที่จะจัดทำเสร็จเดือนกันยายนนี้ว่าจะเป็นอย่างไร โดยจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ต้นทุนพลังงานทดแทนที่ลดลง ภาครัฐน่าจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้มากกว่าร้อยละ 30 จากแผนเดิม เพื่อเพิ่มการลงทุนในประเทศ และลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ทั้งถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ต้องนำเข้าเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราการซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนก็ควรจะต้องเหมาะสม แข่งขันได้กับการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคต ไม่ใช่นำมาเปรียบเทียบกับราคาขายส่งไฟฟ้าในปัจจุบันที่ประมาณ  2.44 บาท/หน่วย

“ไทยต้องพึ่งพาก๊าซฯ ถ่านหินนำเข้า รวมทั้งซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ดังนั้น ค่าไฟฟ้ารับซื้อจากพลังงานทดแทนควรแข่งขันกับเชื้อเพลิงเหล่านี้ในอนาคตได้ด้วย หากกระทรวงพลังงานสนับสนุนจะก่อให้เกิดการลงทุนในไทยอีกมาก โดยเฉพาะกรณีการรับซื้อไฟฟ้าจากขยะ หากกำหนดเกณฑ์ต่ำมากเกินไปจะทำให้แผนแก้ปัญหาขยะล้นกำจัดมลพิษไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนการทำแผนพีดีพีรายภาคอาจจะทำได้ยากเมื่อประเทศไทยมีสายส่งเชื่อมโยงที่ดีแล้ว ก็ควรใช้พีดีพีรวม และส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่เหมาะสม”นายจอมทรัพย์ กล่าว


นายจอมทรัพย์ กล่าวด้วยว่า จากที่นโยบายพลังงานทดแทนของประเทศยังต้องรอแผนพีดีพีใหม่ ทางเอกชนได้ปรับตัวไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยในส่วนของบริษัทเริ่มลงทุนพลังงานลมในเวียดนาม 700 เมกะวัตต์ ลงทุนรวมกว่า 50,000 ล้านบาท ใน 5 ปี บริษัทถือหุ้นโครงการนี้ร้อยละ 51 และเตรียมโครงการโซลาร์ฟาร์มในเวียดนามอีก 200 เมกะวัตต์ ซึ่งรัฐบาลเวียดนามประกาศจะรับซื้อและลงนามสัญญาเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ หากได้รับการอนุมัติจะต้องลงทุนเริ่มขายไฟฟ้าเดือนมิถุนายน 2562 ขณะเดียวกันศึกษาเพื่อลงทุนในไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ ส่วนการลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ 20 เมกะวัตต์ในจีน ได้ยกเลิกโครงการแล้ว เนื่องจากนโยบายรัฐบาลจีนลดการสนับสนุนพลังงานทดแทน ด้วยการลดอัตรารับซื้อค่าไฟฟ้า ทำให้ผลตอบแทนของบริษัทไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่การลงทุนแต่ละโครงการต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 13-15

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานในประเทศมีสัญญาซื้อขายแล้ว (พีพีเอ) ประมาณ 840 เมกะวัตต์ แยกเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 800 เมกะวัตต์ โดยผลิตไฟฟ้าแล้ว 743 เมกะวัตต์ ที่เหลือระหว่างก่อสร้าง เช่น โซลาร์สหกรณ์ 28 เมกะวัตต์ ขายไฟฟ้าตามสัญญาเดือนธันวาคมปีนี้ นอกจากนี้ ในส่วนของพีพีเอ ยังมีโรงไฟฟ้าขยะอีก 40 เมกะวัตต์ จำนวนนี้จ่ายไฟฟ้าแล้วเป็นขยะอุตสาหกรรมใน จ.สระแก้ว 9.9 เมกะวัตต์ ที่เหลือเป็นขยะชุมชนในจังหวัดหนองคาย 8 เมกะวัตต์ ,จังหวัดพิจิตร 9.9 เมกะวัตต์ โดย 2 โครงการนี้จะขายไฟฟ้าเข้าระบบปลายปี 2562 อีกโครงการอยู่ที่กำลังผลิตผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้าในปี 2563 

ล่าสุดบริษัทยังได้รับการคัดเลือกจากจังหวัดนนทบุรีเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขยะ 20 เมกะวัตต์ ด้วยเทคโนโลยี plasma gasification วงเงินลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะลงนามในสัญญาเมื่อใดนั้น คงต้องรอความชัดเจนนโยบายด้านการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานและกระทรวงมหาดไทยที่ชัดเจนเสียก่อน


นายจอมทรัพย์ กล่าวว่า จากโครงการทั้งหมดทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่ารายได้จะเป็นไปตามแผนรายได้ขยายตัวราวร้อยละ 20-25 ต่อเนื่อง 5 ปี จากที่ปี 2560 มีรายได้ประมาณ 5,397 ล้านบาท ดังนั้น ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท มีกระแสเงินสดประมาณ 5,200 ล้านบาท ดังนั้น ส่วนนี้จึงสามารถชำระหนี้ระยะยาว 22,000 ล้านบาท อายุหนี้ 12-14 ปีอย่างไม่มีปัญหา โดยโครงการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นการกู้ราวร้อยละ 70 โดยปีหน้าจะลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาทในเวียดนามและโรงไฟฟ้าขยะในไทย จำนวนนี้จะเป็นส่วนเงินทุนของบริษัทราว 2,400 ล้านบาท  

สำหรับเงินแผนการเงินทั้งรีไฟแนนซ์และลงทุนโครงการใหม่ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ได้อนุมัติออกหุ้นกู้ทั้งในและต่างประเทศ 36,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะออกหุ้นกู้ล็อตแรก 500 ล้านบาท และเตรียมแผนการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF ) มูลค่า 9,000 ล้านบาท จะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม หลังจากเกณฑ์ต่างออกมาชัดเจน และเข้าซื้อขายภายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2561. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย