เค้นสอบชายวัย 32 ปีคดีฆ่าเปลือยรัดคอสาวหมกทิ้งคูน้ำ

ปทุมธานี 18 มิ.ย.-ตำรวจเค้นสอบชายวัย 32 ปี คดีฆ่าเปลือยรัดคอสาวหมกทิ้งคูน้ำ จ.ปทุมธานี หลังพบรถกระบะของชายคนดังกล่าวอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุในช่วงคืนก่อนพบศพ


เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เข้าควบคุมตัวนายพีระพัฒน์ คำลุน หรือ “โจ” อายุ 32 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี พนักงานขับรถส่งของร้านล้อแม็กซ์ ขณะขับรถไปส่งของให้ลูกค้าย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวน และดูรถคันที่ก่อเหตุซึ่งจอดไว้ที่ข้างร้าน บริเวณถนนซ่อมสร้าง ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นรถกระบะ


การจับกุมครั้งนี้ หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบข้อมูลว่ารถกระบะต้องสงสัยคันดังกล่าว มีพยานพบว่าอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุในช่วงคืนก่อนพบศพ น.ส.มะลิวรรณ อ่อนอุ่น หญิงสาวที่ถูกฆ่ารัดคอเสียชีวิต บริเวณถนน345 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามและแกะรอยหารถคันดังกล่าว โดยที่ได้ข้อมูลจากพยานใกล้ที่เกิดเหตุจุดพบศพว่า พบรถกระบะต้องสงสัยถอยเข้าออกในบริเวณดังกล่าว พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของนายโจ และทำงานอยู่ที่ร้านแห่งนี้ จึงเดินทางไปที่ร้านและพบรถจอดอยู่หน้าร้าน จึงดักซุ่มรอใกล้บริเวณร้าน ส่วนกำลังอีกชุดไปดักซุ่มที่ย่านปากเกร็ด กระทั่งช่วงเย็นพบว่านายโจ ขับรถของที่ร้าน มาถึงกลางทาง จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม

สอบถามเจ้าของร้าน บอกว่าเจ้าของรถกระบะเป็นของลูกน้องคือนายโจ เป็นพนักงานขับรถขนส่งล้อแม็กซ์ที่ร้าน โดยนายโจ จะขับรถกระบะของตัวเองมาจอดที่หน้าร้านทุกครั้ง แล้วใช้รถกระบะของทางร้านขับไปส่งสินค้า ซึ่งวันนี้ได้ไปส่งสินค้าที่ย่าน จ.นนทบุรี โดยพบว่ารถกระบะเป็นลักษณะติดตั้งเครื่องเสียงทั้งคัน

นอกจากนี้ตำรวจชุดสืบสวน ยังพบคนงานชาวลาว 2 คน คือนายเสริม อายุ 22 ปี และนายโขง อายุ 18 ปี ที่มีลักษณะตรงตามที่พยานพบเห็นก่อนรับตัวเหยื่อขึ้นรถมาด้วย จึงคุมตัวมาสอบสวนจนทราบว่า คืนวันเสาร์ที่ 16 มิ.ย. หลังร้านปิด คนงานในร้าน 4-5 คน ได้นั่งดื่มสุรากัน กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. นายโจได้ชักชวนนายเสริม และนายโขง ไปเที่ยวต่อที่ย่านรังสิต โดยนายโจ ได้พาขับไปหาหญิงสาวบริการที่ยืนอยู่บริเวณริมถนนย่านรังสิต จากนั้นได้ตกลงราคากัน ก่อนพาหญิงสาวขึ้นรถกระบะมาด้วยกัน โดยนายโจ ได้ขับรถไปส่งนายเสริม และนายโขง ลงที่หน้าร้าน ก่อนขับรถพาหญิงสาวออกไปด้วยกัน โดยไม่ทราบว่าไปที่ไหนกันต่อ และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มิ.ย. ช่วงเย็น นายโจ ยังคงมาหาเพื่อนคนงานที่บ้านพักข้างร้านตามปกติ และเช้าวันนี้ (18 มิ.ย.) นายโจ ยังคงเข้าทำงานตามปกติที่ร้าน โดยไม่มีพิรุธใดๆ


ขณะนี้ตำรวจยังคงสอบปากคำเครียด นายโจ อยู่ที่ สภ.ปากคลองรังสิต โดยยังไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ กับผู้สื่อข่าว เพียงแจ้งว่าจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งก่อน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาตรวจหา DNA ภายในรถกระบะของผู้ต้องหา และจะมีการแถลงจับกุมที่ตำรวจภูธร ภาค 1 ในวันพรุ่งนี้ เวลา 13.00 น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน