กรุงเทพฯ
13 มิ.ย.-กลุ่มเหล็ก เผยยอดใช้เหล็กยังต่ำ เหตุโครงการภาครัฐยังล่าช้า
คาดยอดใช้ปี้นี้รวม 17 ล้านตัน
นายวิกรม วัชระคุปต์
ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า
ภาพรวมการผลิตในอุตสาหกรรมเหล็กในปีนี้ คาดว่ามีปริมาณการผลิตมีประมาณ 17 ล้านตัน
เติบโตจากปีก่อนเล็กน้อย 16 ล้านตัน เนื่องจากการลงทุนภาครัฐยังคงล่าช้า และหลายโครงการ
ยังเป็นเพียงแค่นโยบายยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม
เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ การพัฒนารถไฟฟ้า โครงการลงทุนในอีอีซี
ส่วนผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
กับอุตสาหกรรมเหล็ก มองว่า จะมีผลในทางอ้อม เพราะไทยไม่ได้มีการค้าขายเหล็กกับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม เมื่อสหรัฐตั้งกำแพงภาษีกับแคนาดา
และจีน ทางภาครัฐก็ควรจะร่วมมือกับเอกชน
ในการร่วมกันทำตลาดในสหรัฐ ก็จะเป็นโอกาสที่จะหาตลาดใหม่ได้เพิ่มขึ้น
นายชัยเฉลิม บุญญานุวัตร
อุปนายกสมาคมผู้ผลิตเหล็กทรงยาวด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า มองว่า
อุตสาหกรรมการผลิตเหล็กเส้นในปีนี้จะเติบโตประมาณ ร้อยละ 4-5 จึงเห็นว่า ภาครัฐ
ควรจะต้องเร่งเดินหน้าโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้เหล็กเส้นในประเทศให้สูงขึ้นเป็นร้อยละ 60
จากปัจจุบันร้อยละ 30 หรือ มีปริมาณการใช้เฉลี่ย 3 ล้านตันต่อปี
จากกำลังการผลิตทั้งหมดปีละ 8 ล้านตัน–สำนักข่าวไทย