รัฐบาลแจงทูตต่างประเทศคืบหน้าแผนลงทุน EEC

กระทรวงต่างประเทศ 6 มิ.ย. – รัฐบาลเชิญทูตต่างประเทศรับทราบแผนลงทุน EEC ย้ำ 6 โครงการขนาดใหญ่ปลายปีนี้ทราบรายชื่อผู้ชนะประมูล เสนอ ครม. ม.ค.-ก.พ. 62  ทีมเศรษฐกิจเดินหน้าโรดโชว์นักลงทุนยุโรป เอเชีย  ตั้งกองทุนดูแลพื้นที่ ตั้งผังเมืองใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจ ย้ำศูนย์ซ่อมอากาศยานพร้อมเปิดรับเอกชนทุกราย ร่วมพัฒนาศูนย์กลางการบินภาคตะวันออก 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ชี้แจงข้อมูลให้แก่คณะผู้แทนทางการทูตและกงสุลที่ประจำการในประเทศไทยรับทราบเกี่ยวกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในหัวข้อ “The Eastern Economic Corridor (EEC) : Taking Off”  เพื่อชี้แจงภาพรวมแผนการลงทุนในเขตอีอีซีให้เอกอัครราชทูตต่างชาติ เพื่อนำไปแนะนำกับเอกชนในต่างประเทศที่สนใจเข้ามาขยายการลงทุนในประเทศไทย เพราะหลังจากกฎหมายอีอีซีผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และย้ำว่าโครงการลงทุนที่ดีมีความจำเป็นรัฐบาลชุดต่อไปจะสานต่อโครงการลงทุน ทำให้เกิดความมั่นใจกับต่างชาติในการดูแลโครงการลงทุนให้ครอบคลุม

โดยเฉพาะรัฐบาลเตรียมจัดตั้งกองทุนสำหรับดูแลประชาชนในพื้นที่ กำลังศึกษาแหล่งที่มาของรายได้เงินกองทุนให้เหมาะสม วัตถุประสงค์การใช้เงิน สำหรับการดูแลสวัสดิการ การดูแลสุขภาพ เพื่อรองรับผลกระทบจากการลงทุน  การศึกษาแรงงานคุณภาพ นอกจากนี้ ยังเดินหน้าวางผังเมืองใหม่ให้เป็นระบบทั้งการอยู่อาศัย ภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะเสร็จภายใน 1 ปี  เมื่อแผนทุกด้านเริ่มคืบหน้ารัฐบาลจึงเริ่มออกไปโรดโชว์ชี้แจงนักลงทุนต่างประเทศนำร่องช่วงโอกาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยือนประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้นัดนักลงทุนมารับฟังนับ 100 ราย รัฐบาลยังเตรียมออกไปโรดโชว์ประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เพราะนักลงทุนเหล่านี้ได้มาเยือนไทยหลายครั้ง จึงต้องออกไปชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการลงทุน เพื่อดึงมาประมูลการลงทุน


นอกจากนี้ การบินไทยและแอร์บัสยังเตรียมลงนามร่วมพัฒนาศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) อย่างเป็นทางการ หลังจากลงนามร่วมการศึกษาแผนช่วงที่ผ่านมา นับว่าเป็นโครงการนำร่องในอีอีซีอีกด้านหนึ่ง เพราะรัฐบาลเตรียมพื้นที่ MRO ประมาณ 600 ไร่ ในส่วนการบินไทยและแอร์บัสต้องการพื้นที่ 200 ไร่ แอร์เอเชีย 70 ไร่ เอกชนญี่ปุ่น รวมถึงโบอิ้ง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการบินภาคตะวันออกต้องมีความพร้อมทั้งศูนย์ซ่อมอากาศยาน การสร้างอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน สนามบินอู่ตะเภา สำหรับความร่วมมือของการบินไทยและแอร์บัสเมื่อชัดเจนจะเริ่มคัดเลือกเอกชนรายอื่นเพิ่มช่วงต้นปีหน้า ความเหมาะสมของศูนย์ซ่อมอากาศยานรัฐบาลต้องการประมาณ 3 ราย 

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ชี้แจงว่า หลังจากประกาศเงื่อนไขการประมูล (TOR) แผนการลงทุน EEC ชัดเจนแล้ว จะนำหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ไปใช้กับโครงการลงทุนอื่นในลักษณะเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ทุกโครงการคืบหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว เมื่อทุกโครงการเสนอ ครม.ก่อนช่วงเลือกตั้งจะทำให้เกิดความมั่นใจว่าหลังเลือกตั้งจะมีการสานต่อโครงการให้ต่อเนื่องจากรัฐบาลใหม่ 


สำหรับ 6 โครงการสำคัญในพื้นที่อีอีซีที่รัฐบาลเร่งผลักดันให้สำเร็จในรูปแบบ  PPP ประกอบด้วย สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เปิดรับฟังความเห็นจากนักลงทุน  15 มิ.ย.นี้  กำหนดเลือกผู้ชนะการประมูลแล้วเสร็จเดือนตุลาคม  2561 เพื่อเสนอบอร์ดอีอีซี  ครม.เดือนพฤศจิกายน  ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา คัดเลือกเอกชนได้เสร็จเดือนธันวาคม  รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (อู่ตะเภา สุวรรณภูมิ ดอนเมือง) เริ่มประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าลงทุน เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา คัดเลือกเอกชนเสร็จเดือนธันวาคม  ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 เปิดรับฟังความเห็นนักลงทุนครั้งที่ 3 เดือนกรกฎาคมนี้   ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เฟส 3 และดิจิทัลปาร์ค (EECd) คัดเลือกเอกชนเดือน ธ.ค. รวมวงเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 600,000 ล้านบาท เพื่อเร่งรัดให้ได้ผู้ชนะการประมูลทั้ง 6 โครงการภายในปีนี้  รวมถึงโคงรการอื่น เช่น เช่น ดิจิทัลปาร์ค EECi และโรงเรียนช่างอากาศยาน เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการบินและอวกาศอู่ตะเภา  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในส่วนของการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม  Smart Park ได้จัดเตรียมพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสหากรรมวิจัยและพัฒนา โลจิสติกส์ การบินและอวกาศ อุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์และจักรกล ดิจิทัลเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ปัญญาประดิษฐ์ ขณะนี้รายละเอียดแผนลงทุนคืบหน้าร้อยละ 80 ก่อสร้างเสร็จปี 2564 จัดสร้างอาคารจอดรถโรโบติกส์ มากกว่า 4,000 คัน ศูนย์การค้าบนพื้นที่ 52 ไร่ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท 

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ชี้แจงว่า การชี้แจงแผนลงทุนความคืบหน้าโครงการลงทุนครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มี พ.ร.บ.การพัฒนาพื้นที่เป็นการเฉพาะ จึงทำให้เกิดความต่อเนื่องในการลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนกว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยมีทั้งองค์กรกำกับดูแลอย่างถาวร กระบวนการทำงานอย่างชัดเจน เป็นกฎหมายที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุน ขณะที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญมากในการให้สิทธิประโยชน์ที่ไม่แพ้ประเทศใดในโลก ไม่ว่าจะในเชิงสิทธิประโยชน์ทางภาษี และมีศูนย์ One-stop Service เพื่อบริการนักลงทุนอย่างครบวงจร เมื่อต่างชาติมองเห็นว่าเศรษฐกิจเอเชียจะเติบโตอีก 2-3 เท่าตัว และไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคดังกล่าว เมื่อเห็นว่าอีอีซีกำลังถูกผลักดัน นักลงทุนจึงไหลเข้ามาปักหมุดลงทุนยังไทยจำนวนมาก จากความพร้อมทั้งสนามบิน รถไฟฟ้า ท่าเรือ

นางสาวดวงใจ  อัศวจินตจิตร์  เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า บีโอไอ ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี  เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนพัฒนาพื้นที่เชิงอุตสาหกรรม และพัฒนาเมืองในการ ยกระดับพื้นที่ และตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง จะได้รับสิทธิ์และประโยชน์เพิ่มจากการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยจะให้ได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล  สำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการลงทุนในอัตราร้อยละ 50 ของอัตราปกติ เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่กำหนดระยะเวลา การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นสุดลงและอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดมั่นใจว่าจะทำให้เกิดการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน ภาพรวมปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 720,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรกปีนี้ในเขตอีอีซี 100,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]

“พิเชษฐ์” ชิงปิดประชุมสภาฯ หลังถกวุ่นเสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 17 ก.ค.- “พิเชษฐ์” ทำแฮตทริก ชิงปิดประชุมสภาฯ หลัง “สส.ปชน.” เสนอนับองค์ประชุม ขณะที่ สส.เพื่อไทย ขอให้นับแบบขานชื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ขณะรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 66 และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินประจำปีงบประมาณ 2566 ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีผู้อภิปรายไปเพียงคนเดียวคือนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ทำให้นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายว่า เห็นสมาชิกในห้องประชุมบางตาอยากจะเช็คความตั้งใจการทำงานของสส.ฝ่ายรัฐบาล จึงขอนับองค์ประชุม และมีผู้รับรองถูกต้องจากนั้นนายพิเชษฐ์ กดออดเรียกสมาชิกพร้อมกล่าวว่า “ไม่อยากอภิปรายแล้วหรือ” พร้อมทั้งขอให้วิปรัฐบาลแจ้งสส.ที่อยู่ในห้องประชุมอื่นเพื่อรีบเข้าห้องประชุมใหญ่ ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การขอนับองค์ประชุมและมีผู้รับรอง ถือเป็นสิ่งสวยงาม แต่หากมีคนเสนอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ คงใช้เวลาถึงค่ำ ดังนั้น ขอร้องเพื่อนสมาชิก เดือนนี้ขออย่านับองค์ประชุมเลย แล้วไปนับองค์ประชุมเดือนหน้า […]

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]