ก.พลังงาน ขีดกรอบเส้นปีนี้นำไทยสู่สังคมลดพึ่งพา “ฟอสซิล”


กรุงเทพฯ 6
มิ.ย.-กระทรวงพลังงานวางแผน สู่สังคมไม่พึ่งพาพลังงานหลักหรือ ฟอสซิลใน
10-20 ปีข้างหน้า โดยวางกรอบเสร็จสิ้นในปลายปี 2561
และเร่งแผนส่งเสริมโซลาร์รูฟท็อป
แก้กฏระเบียบส่งเสริมให้ประชาชนขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ รวมทั้งส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวมวล-ชีวภาพ
ผสมโซลาร์ กำลังผลิต 3 พันเมกะวัตต์ ย้ำราคาพลังงานไทยต้องไม่แพงขึ้น


นายศิริ
จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่าโลกกำลังก้าวสู่โลกแห่งการให้ความสำคัญต่อพลังงานสีเขียว
พึ่งพาพลังงานทดแทนมากขึ้น
ทางกระทรวงพลังงานก็เตรียมกำหนดกรอบระยะยาวว่าจะไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลใน
10-20 ปี โดยพัฒนาทั้งพลังงานทดแทนในส่วนของไฟฟ้าและยานยนต์
 กรอบแผนงานจะกำหนดเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้  โดยต้องดำเนินการที่ดูครอบคลุมทุกส่วน เช่น
สายส่งไฟฟ้า สายส่งฝ่ายจำหน่าย สมาร์กริด สมาร์ทมิเตอร์ สมาร์ทซิสเต็มส์
 ซึ่งในส่วนของบ้านพักอาศัยจะส่งเสริมให้เกิดการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา
(โซลาร์รูฟท็อป ) ในรูปการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองแล้วเหลือจึงขายเข้าระบบ แต่ทั้งนี้การส่งเสริมจะไม่ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าแพงขึ้น

“กรอบแผนงานไม่พึ่งพาพลังงานฟอสซิล
จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ ครอบคลุมไฟฟ้า-ยานยนต์ ช่วยทำให้โลกสะอาดขึ้น
และหนึ่งในแผนคือส่งเสริมโซลาร์รูฟท็อป ผลิตไฟฟ้าใช้เอง หากมีเหลือขายเข้าระบบ
โดยต้องมีการแก้ไขหลักเกณฑ์ระเบียบต่างเพื่อรองรับเรื่องนี้  ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ในอนาคต
แผนการใช้พลังงานทดแทนก็จะสูงกว่า แผนปัจจุบันที่มีเป้าหมายใช้พลังงานทดแทนร้อยละ
30 ของพลังงานทั้งหมด”นายศิริ กล่าว

  รมว.พลังงาน
ยังกล่าวในระหว่างร่วมงาน แสดงเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทน
การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (
ASEAN Sustainable Energy Week 2018 ระหว่างวันที่ 6-9 มิ.ย. ที่ศูนย์ฯไบเทคบางนา ) ว่าความมั่นคงด้านพลังงานเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของทุกประเทศในอาเซียน
 โดยในส่วนของไทยประสบความสำเร็จด้านการพัฒนาพลังงาน
ด้วยการผสมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 
พลังงาน และการเข้าถึงตลาด  การพัฒนาพลังงานทางเลือก  โดยในส่วนของราคาพลังงานของไทยแม้ไม่ได้ต่ำที่สุดอย่างประเทศอื่นๆ
ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องภาษี  ซึ่งเป็นรายได้ที่นำไปนำไปพัฒนาประเทศ
ทั้งเรื่อง เสริมสร้าง สวัสดิการ พัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ   แต่ราคาพลังงานก็อยู่ในเกณฑ์ที่สร้างอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
และพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งในเขตเมืองและเขตชนบท


รมว.พลังงาน
กล่าวด้วยว่า การเข้าถึงพลังงานที่ทันสมัย การพัฒนา พลังงานทดแทนและเชื้อเพลิงที่สะอาด
เป็นพื้นฐานสำคัญในการเผชิญกัความท้าทายในโลกปัจจุบัน ทั้ง
 ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency – IEA) .. คาดว่าความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ37
เปอร์เซ็นต์ภายในค.ศ. 2040
ซึ่งวาระการประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้แนะนำว่าการจะเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน
ซึ่งสิ่งที่ไทยเพเนินการทำหลากหลายด้านคบคู่กัน 
คือสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถเข้าถึงบริการด้านพลังงานที่ทันสมัยและราคาไม่แพงและเชื่อถือได้,เพิ่มส่วนแบ่งของพลังงานหมุนเวียน
โดยในขณะนี้มีการส่งเสริมพลังงานทดแทน เช่น ลม พลังงานแสงอาทิตย์ มีดสัดส่วนร้อยละ
10 และจะเพิ่มเป็นร้อยละ 30 ในอนาคต ซึ่งสิ่งที่จะส่งเสริมควบคู่กันคือ
การพัฒนาพลังงานชีวมวล ควบคู่พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อให้เกิดโรงไฟฟ้าผสมผสาน  3,000 เมกะวัตต์ และในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะมีโครงการพิเศษขึ้นมาดูแลราว 300 เมกะวัตต์  ในขณะเดียวกัน ต้องเพิ่มอัตราการการส่งเสริมใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสองเท่าในอนาต
และกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการวิจัยและเทคโนโลยีด้านพลังงานที่สะอาด

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด
(มหาชน) และกรรมการ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด กล่าวว่าเรื่องการส่งเสริมให้ประชาชนขายไฟฟ้าที่ผลิตจากโซลาร์รูฟท็อป
เป็นเรื่องที่ดี และ
ทางบริษัทสามารถเสนอราคาขายไฟฟ้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนดคือประมาณ 2.40
บาท/หน่วยได้ โดยเป้าหมายของบริษัท คล้ายคลึงกับ ไออีเอ คือจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนในพอร์ตลงทุนเป็นร้อยละ
20ของกำลังผลิตรวม 4,300 เมกะวัตต์ ในปี ค.ศ.2025 จากปัจจุบันร้อยละ 9 จากกำลังผลิตรวม
2,200 เมกะวัตต์ทั้งนี้ในส่วนของ บ้านปู อินฟิเนอร์จี ซึ่งให้บริการด้านการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร
นั้น
ขณะนี้มีการให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว12เมกะวัตต์
และมีการลงนามข้อตกลงจะเพิ่มอีกราว 100เ มกะวัตต์
และพร้อมจะให้บริการระบบสมาร์ทซิตี้ หากกฏระเบียบรัฐมีความชัดเจน เช่น ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
(อีอีซี )  จังหวัด เชียงใหม่
จังหวัดภภูเก็ต เป็นต้น

นายบุรณิน
รัตนสมบัติ
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น  บมจ.ปตท. กล่าวว่า ในส่วนของ
ปตท.เตรียมพร้อมรับมือสังคมลดการใช้ฟอสซิล ในอนาคต โดยในส่วนของน้ำมันหล่อลื่น
มีการผลิตน้ำมันสำหรับโรงไฟฟ้าทุกประเภท
การพัฒนาน้ำมันหล่อลื่นสูตรที่ใช้กับยานยนต์ไฟฟ้า
ซึ่งคาดว่าความต้องการใช้จะเพิ่มมากขึ้น
สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]