ชุมพร 30 พ.ค.-คนร้ายขึงลวดเกี่ยวรถจักรยานยนต์ชายวัย 76 ล้ม ก่อนแทงผู้ตายไม่ยั้ง ชิงทรัพย์ 3 แสนบาทหนี จ.ชุมพร ตำรวจ คาดคนร้ายอาศัยอยู่ในย่านที่เกิดเหตุ และรู้ว่าผู้ตายชอบสวมสร้อยคอทองคำเส้นใหญ่
ที่เกิดเหตุริมถนน สายบ้านควนหินมุ้ย-ห้วยทรายขาว หมู่ที่ 9 ต.นาขา อ.หลังสวน เป็นที่เปลี่ยว ห่างจากบ้านชาวบ้าน พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 สีแดง ทะเบียน กกค.260 ชุมพร ล้มคว่ำอยู่ริมถนน ห่างไปเล็กน้อย พบศพของนายสมพร ชูบ้านนา อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 หมู่ที่ 9 ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร อาชีพทำสวน และรับจ้าง นอนตายในชุดเสื้อกั้กสำหรับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง ชันสูตรพลิกศพ พบว่าที่ใบหน้ามีบาดแผลถูกแทงด้วยของแข็งมีคมหลายสิบแผลจนหน้าตาเละ ที่ลำคอมีรอยเส้นลวดบาดเป็นแผลลึก ร่วม 2 ซม. ตรวจสอบภายในร่างกาย พบว่ากระเป๋าเงินมีเงิน 50,000 บาทและแหวนทองคำหนัก 1 บาท ยังอยู่ครบ แต่สร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท เหรียญเกจิอาจารย์ดังเหลี่ยมทองหนัก 1 บาท มูลค่า ร่วม 1แสนบาท รวมทรัพย์สินที่หายไปร่วม 3 แสนบาท ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบที่เสาไฟฟ้าริมทางและต้นไม้ฝั่งตรงข้าม มีลวดขนาดใหญ่ มัดขึงขวางถนนหล่นอยู่กลางถนน และร่องรอยการต่อสู้จนพงหญ้าบริเวณที่เกิดเหตุเตียนไปทั้งแถบ
สวบถามนางสุทิน ชูบ้านนา อายุ 72 ปี ภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า นายสมพร เป็นชาวสวนและขี่จักรยานยนต์รับจ้างมานานหลายสิบปี ตั้งแต่หนุ่มๆ จนสามารถสะสมเงินสดได้นับล้านบาท แต่เป็นผู้ที่นิสัยรักสนุก มีเมียหลายคน เพราะเป็นคนรูปหล่อ มีสาวแก่แม่หม้ายติดพันหลายคน จนได้สมญานามว่า เศรษฐีลูกทุ่ง แต่นายสมพร จะกลับมานอนที่บ้านทุกคืน เมื่อถึงเวลา 05.00 น. จะขี่จักรยานยนต์ออกไปทำงานทุกวัน นายสมพร ชอบแต่งกายด้วยเครื่องประดับทองคำ และพกเงินครั้งละ 50,000 บาททุกวัน จนมาเกิดเหตุ
พ.ต.ต.ฐิติณัฐฎ์ ศรีสังข์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ กองบังคับการ ตร.ชุมพร ได้นำทีมตำรวจมือปราบลงตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม เบื้องต้นพอจะสรุปเหตุการณ์ได้ว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนที่อยู่ในย่านที่เกิดเหตุ เนื่องจากเห็นว่า นายสมพร สวมสร้อยคอทองคำเส้นใหญ่มาก แต่อาจจะไม่ทราบว่าพกเงินจำนวนมากด้วย และ น่าจะลงมือมากกว่าหนึ่งคน เมื่อได้รับสัญญาณจากคนดูต้นทางว่า นายสมพร ออกจากบ้าน จึงใช้ลวดกั้นถนน ในจุดที่เปลี่ยว หลังจากรถจักรยานยต์ล้ม นายสมพร ยังพยายามต่อสู้ คนร้ายจึงใช้เหล็กแทงปาล์ม แทงเข้าที่ใบหน้าไม่ยั้ง จนนายสมพร ตายคาที่ จึงชิงสร้อยคอทองคำ แล้วหลบหนีไป ตำรวจจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย
