มิวนิค 27 พ.ค. – ปตท.ยังตรึงราคาน้ำมันหล่อลื่น แม้ต้นทุนพุ่งขึ้นตามน้ำมันดิบ พร้อมปรับตัวรับมือกระแสยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี)
นายบุรณิน รัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่าต้นทุนการผลิตน้ำมันหล่อลื่นขยับขึ้นร้อยละ 5-10 หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเฉียด 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ ปตท.จะยังไม่ขึ้นราคาน้ำมันหล่อลื่น โดยจะตรึงราคาไปจนถึงสิ้นไตรมาส 2/2561 หลังจากนั้นคงจะต้องดูทั้งต้นทุนและสภาพตลาดโดยรวมอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายบุรณิน กล่าวในระหว่างดูงานด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่สำนักงานใหญ่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศเยอรมนี โดยยอมรับว่า ยอดขายน้ำมันหล่อลื่นอาจได้รับผลกระทบจากยอดขายอีวีที่เพิ่มขึ้นในอีกกว่า10 ปีข้างหน้า ขณะที่กลุ่ม ปตท.เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งการผลิตวัสดุ ชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยานยนต์อีวี การวิจัยและพัฒนาสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า ซึ่งขณะนีมี 21 แห่ง และมีการพัฒนาร่วมกับภาครัฐในการดำเนินโครงสร้างพื้นฐานรองรับ
ล่าสุด ปตท.เตรียมจัดตั้งบริษัท พีทีที โออาร์ ไชน่า จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจัดหาน้ำมันหล่อลื่นในจีน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คาดว่าจะเปิดดำเนินการประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มยอดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นแล้วยังเป็นการเรียนรู้เทคโนโลยีอีวีที่ก้าวหน้า รวมถึงเป็นฐานขยายร้านกาแฟ “อเมซอน” ในรูปแบบแฟรนไชส์
“จีนใช้น้ำมันหล่อลื่นมากที่สุดในโลกประมาณ 8,000-10,000 ล้านลิตรต่อปี เทียบกับไทยมีความต้องการใช้อยู่ที่ 800 ล้านลิตรต่อปี หรือมากกว่าประเทศไทย 10 เท่า ซึ่งตั้งเป้าขายของ ปตท.เป็น 10 ล้านลิตรต่อปีในปีหน้าจากปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 3-5 ล้านลิตรต่อปี ” นายบุรณิน กล่าว
สำหรับปี 2561 ปตท.ตั้งเป้ายอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น 180-190 ล้านลิตร หรือเติบโตร้อยละ 5จากปีก่อน โดยเป็นยอดจำหน่ายในประเทศ 160 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3-5 และส่งออกไปกว่า 40 ประเทศ อยู่ที่ 28-30 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 15-20
ส่วนยอดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ลดลงร้อยละ 2 เนื่องจากภาครัฐปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันหล่อลื่น ทำให้ลูกค้าสั่งสตอกไว้ล่วงหน้า แต่ภาพรวมปีนี้มั่นใจว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้.-สำนักข่าวไทย