โตเกียว 20 พ.ค.- ฮอนด้า บริษัทยานยนต์ที่มียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 3 ในญี่ปุ่น จะลดขนาดแผนการลงทุนและลดเป้าหมายการจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV) เนื่องจากแรงซื้อชะลอตัว
นายโทชิฮิโระ มิเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของฮอนด้าแถลงความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจประจำปีในวันนี้ว่า ฮอนด้าได้ปรับลดการลงทุนในอีวีและซอฟต์แวร์จนถึงปี 2573 เหลือ 7 ล้านล้านเยน (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) จากที่ประกาศเมื่อปีก่อนว่าจะลงทุน 10 ล้านล้านเยน (ราว 2.3 ล้านล้านบาท) และได้ปรับลดเป้าหมายการจำหน่ายอีวีจนถึงปี 2573 ลงตามแรงซื้อที่ชะลอตัวลงในปัจจุบัน
เขาคาดว่า อีวีจะครองสัดส่วนเกือบร้อยละ 20 หรือราว 700,000-750,000 คันของยอดจำหน่ายทั่วโลกของฮอนด้าราว 3.6 ล้านคันภายในปี 2573 ขณะที่รถไฮบริดที่เป็นพลังงานผสมระหว่างไฟฟ้ากับน้ำมันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะครองสัดส่วน 2.2 ล้านคัน จากเดิมที่คาดว่าจะครองสัดส่วน 2 ล้านคัน ซีอีโอของฮอนด้าเปิดเผยด้วยว่า กำลังเพิ่มการผลิตในสหรัฐที่ครองสัดส่วนร้อยละ 60 ของยานยนต์ทั้งหมดที่จำหน่ายสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดยานยนต์ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนฮอนด้าประกาศว่า จะระงับแผนการตั้งฐานการผลิตอีวีมูลค่า 10,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 353,840 ล้านบาท) ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดาเป็นเวลา 2 ปี โดยให้เหตุผลว่า ความต้องการซื้อชะลอตัว ต่อมาเมื่อสัปดาห์ก่อนฮอนด้าคาดว่า กำไรประจำปีจะได้รับผลกระทบราว 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 99,207 ล้านบาท) จากการที่สหรัฐประกาศขึ้นภาษีร้อยละ 25 กับยานยนต์นำเข้าตั้งแต่เดือนเมษายน.-814.-สำนักข่าวไทย