ปลดล็อกวิจัยกัญชารักษามะเร็ง

กทม. 17 พ.ค.-นักวิจัยและผู้ผลิตสารสกัดกัญชาเพื่อการแพทย์ เชื่อว่าการแก้กฎหมายยาเสพติดใหม่ ซึ่งอนุญาตให้วิจัยในคนได้ จะเป็นประโยชน์ต่อแพทย์และผู้ป่วย โดยเฉพาะมะเร็ง ที่รอยาตัวใหม่ๆ โดยไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ


ทีมนักวิจัยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ทดลองนำกัญชาของกลางจำนวน 40 กิโลกรัม ที่ได้รับอนุญาตมาศึกษาวิจัยในเฟสแรก เพื่อหาวิธีการสกัดเอาสารออกฤทธิ์ในกัญชา มาใช้ประโยชน์เป็นยาสมัยใหม่ เบื้องต้นสำเร็จเป็นสเปรย์ฉีดพ่นในช่องปาก บรรเทาความเจ็บปวดและผลข้างเคียงของผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด และกำลังทดลองในหนู คาดหวังว่ากฎหมายใหม่ที่จะออกมาซึ่งอนุญาตให้นำตัวยาไปทดลองในคนเพื่อให้การวิจัยมีความสมบูรณ์


การวิจัยกัญชาในต่างประเทศ ก้าวหน้าถึงขั้นนำสารสกัดจากกัญชามารักษาได้หลายโรคโดยเฉพาะโรคมะเร็งที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ว่าใช้ลดอาการปวด คลื่นไส้อาเจียนและแพ้ยาเคมีบำบัด และมีการจดทะเบียนใบอนุญาตให้ใช้ได้ในหลายประเทศ ถึงขั้นนำสารสกัดจากกัญชามารักษาได้หลายโรค เช่น โรคลมชักในเด็ก พาร์กินสัน เอ็มเอส และโรคมะเร็ง


ขั้นตอนการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สามารถนำสารสกัดจากกัญชารักษาโรคมาทดลองในคนได้ ล่าสุดผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญคือการปลดล็อกให้สามารถผลิตนำเข้าส่งออกและครอบครองกัญชา กัญชง กระท่อม ต้นฝิ่น และเห็ดขี้ควาย ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้ รอเพียงการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งต้องใช้เวลาเพราะเป็นการรวมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 7 ฉบับ มาไว้ในฉบับเดียวกัน

ผลผูกพันจากร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่จะออกมา จะอนุญาตให้ผู้ขอสามารถใช้กัญชาไปทำการวิจัยและผลิตเพื่อการแพทย์เท่านั้น แต่การเสพหรือการใช้ในประเภทอื่น จะยังคงมีความผิดตามกฏหมายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เช่นเดิม

   
ผู้เกี่ยวข้องยังเห็นว่า วิธีการนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่ากัญชาให้สูงกว่าการใช้เป็นยาเสพติดปกติ และส่งผลกลับให้กัญชาเข้ามาสู่ระบบการแพทย์มากกว่า ซึ่งทำให้ปัญหาการใช้กัญชาเป็นยาเสพติดลดลงไปโดยปริยาย

 
ปัจจุบัน ยาเสพติดประเภท 5 ที่อนุญาตให้ปลูก เพื่อการวิจัยในพื้นที่ควบคุม เช่น กัญชง อนุญาตให้หน่วยงานราชการปลูกเพื่อการวิจัยในเชิงเศรษฐกิจ กระท่อม วิจัยในมุมพืชที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตตั้งเดิมของภาคใต้ และกัญชาขออนุญาตวิจัยทางการแพทย์ได้เช่นกัน แต่ทั้งหมดยังไม่อนุญาตให้มีการเสพจึงไม่สามารถทดลองในคนได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง