ครม.เห็นชอบผลิตบัณฑิตป้อนภาคอุตฯ พื้นที่อีอีซี

ทำเนียบฯ 24  เม.ย. – ครม.เห็นชอบโครงการผลิตบัณฑิตและอาชีวพันธุ์ใหม่ระยะ 5 ปี กว่าแสนคน รองรับ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย


นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่และอาชีวพันธุ์ใหม่ ระยะเวลา 5 ปี (61-65) รองรับ 10 กลุ่มอุตสหากรรมเป้าหมายในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) หวังผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม  56,478 คน  บุคลากรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) 8,500  คน และอบรมผู้เรียนจน ปวช. ปวส. เพื่อเพิ่มพูนทักษะผ่านการปรับปรุงหลักสูตร อบรมระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี  52,899 คน รวมทั้งหมด 115,626 คน 

ทั้งนี้ รัฐบาลจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการอบรม ปรับหลักสูตรสำหรับอาชีวะ เพื่อจ่ายเบี้ยงเลี้ยงให้นักเรียน  60,000 บาทต่อคน ส่วนระดับปริญญาตรีจ่ายเงินอุดหนุนประมาณ 100,000 บาทต่อคน ใช้งบประมาณอุดหนุนทั้งหมด 14,138 ล้านบาท ระยะ 5 ปี เริ่มปี 2561 ใช้งบ 1,396 ล้านบาท จากนั้นปีถัดไปให้สถาบันศึกษาของรัฐเสนอของบประมาณ โดยปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่และอาชีวพันธุ์ใหม่


ขณะนี้ได้คัดเลือกมหาวิทยาลัย 20 แห่ง เข้าร่วมโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน 3 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แม้ว่าจะเป็นภาคเอกชนแต่ร่วมสนับสนุนนโยบายรัฐการผลิตบุคลากร จึงต้องจัดสรรเงินอุดหนุนไปด้วยเหมือนกับสถาบันการศึกษาของรัฐ ส่วนการผลิตอาชีวพันธุ์ใหม่ คัดเลือก 27 วิทยาลัยอาชีวเข้าร่วมโครงการ ในระหว่างการจัดการเรียนการสอน ต้องให้นักศึกษาได้เรียนกับสถานประกอบการของเอกชนสัดส่วนร้อยละ 50 ของเวลาเรียน เตรียมเริ่มโครงการช่วงเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป เพื่อให้บุคลากรคุณภาพสูงทั้งด้านช่าง ระบบราง ช่างยนต์เครื่องบิน เทคโนโลยี ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมานักศึกษาเรียนด้านวิทยาศาสตร์สัดส่วนเพียงร้อยละ 30 ส่วนที่เหลือร้อยละ 70 เรียนด้านสังคม จึงต้องสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่เรียนด้านอาชีวะและวิทยาศาสตร์เพิ่ม เพื่อผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของภาคเอกชน และยังเตรียมเจรจากับสำนักการ ก.พ.กำหนดฐานเงินเดือนขั้นต่ำของด้านวิชาชีพให้สูงเท่ากับระดับปริญญาตรีและมีโอกาสก้าวหน้าในวิชาชีพ เพราะอุตสาหกรรมในเขตอีอีซีประกันรายได้ขั้นต่ำมากกว่า 20,000 บาทต่อเดือน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง