ป.ป.ท.ไม่ก้าวก่ายผลสอบ พม.

สำนักข่าวไทย 19 เม.ย.-ป.ป.ท.ไม่ก้าวก่ายผลสอบ ผอ.ศูนย์คนไร้ที่พึ่งของ พม. แต่หาก ป.ป.ท.พบผิดวิยัยร้ายแรง ต้องยึดผล ป.ป.ท.เป็นหลัก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (บอร์ด ป.ป.ท.) วันนี้ (19 เม.ย.) ตามที่มีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะนำเรื่องความคืบหน้าการดำเนินคดีของกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตของกระทรวงศึกษาธิการ และ ทุจริตโครงการ เงินอุดหนุน เงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าสู่การพิจารณา แต่มีรายงานจากแหล่งข่าวระบุว่า ในการประชุมวันนี้ไม่มีการนำวาระทั้งสองเสนอเข้าสู่การประชุม โดยคาดว่าทั้ง 2 เรื่องจะเข้าสู่การประชุมในสัปดาห์หน้า


พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการทำงานในส่วนการทุจริตเงินช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งของ พม.ว่าล่าสุดยังไม่มีรายงานความคืบหน้า พบจังหวัดที่มีการทุจริตเพิ่มเติม ยังคงตัวเลขที่ 56 จังหวัดจากทั้งหมด 77 จังหวัด และมีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน คงเดิมที่  33 จังหวัด ซึ่งเหตุที่ยังไม่มีรายงาน พบจังหวัดอื่นๆเพิ่มเติม ไม่ใช่เพราะทำงานล่าช้า โดยยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อเนื่อง เพราะการจะแจ้งทุจริตในเรื่องนี้ต้องทำอย่างรอบคอบมากที่สุดในสัปดาห์จะเร่งนำเสนอที่ประชุมบอร์ดในส่วนของจังหวัดที่เหลือทั้งหมดให้พิจารณาตั้งอนุกรรมการฯเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด


ส่วนกรณีที่มีเพจดังในเฟซบุค(FB : ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน) แจ้งผลสอบเจ้าหน้าที่ระดับผู้อำนวยการศูนย์คนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น โดยระบุผลสอบจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) มีคำสั่ง ที่ 298/2561 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทาง”วินัยไม่ร้ายแรง” เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น 3 ราย กรณีไม่ปฏิบัติตามระเบียบกรมฯ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552 เจ้าหน้าที่ 3 รายที่ว่า ประกอบด้วย นางพวงพยอม จิตรคง ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น กับเจ้าหน้าที่อีก 2คนนั้น พ.ท.กรทิพย์ กล่าวว่า ในส่วน ป.ป.ท.คงจะไม่ไปก้าวก่ายผลสอบภายในของ พม.เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน แต่หากผลสอบของ ป.ป.ท.ออกมาแล้วพบว่ามีผลที่แตกต่างออกไป เช่น ผิดวินัยอาญาร้ายแรง  ต้นสังกัดอย่าง พม.จะต้องลงโทษตามที่ ป.ป.ท.สรุปผลออกมา ผลสอบเดิมของ พม.จะไม่สามารถนำมาค้านใดๆได้

ส่วนความคืบหน้าการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เลขา ป.ป.ท.กล่าวว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเดินหน้าตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร และพยานบุคคล ซึ่งภาพรวมขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าพบบุคคลที่ร่วมกระทำผิดชัดเจนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องและเอกสารจำนวนมาก จึงอาจต้องใช้เวลาในการทำงานอีกระยะ  

สำหรับเรื่องการทุจริตกองทุนเสมาฯ จะนำเรื่องที่ผู้ตรวจราชการ กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการทุจริตเงินกองทุนเสมาฯ นำข้อมูลพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องมายื่นให้ ป.ป.ท.รวม 44 ราย ยื่นให้บอร์ด ป.ป.ท.พิจารณาเพิ่มเติมผู้ที่มีความผิดเกี่ยวข้องในสัปดาห์หน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย