กทม. 5 มี.ค.-ป.ป.ท. ประสาน ตำรวจ ปปป. จับกุมอดีตพนักงานธุรการ การไฟฟ้านครหลวง บันทึกข้อมูล OT เป็นเท็จ เบิกเงินไปกว่า 1 แสนบาท
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต มอบหมายให้ พ.ต.ต.จักรกฤษณ์ ประจันพล ผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวยการด้านคุ้มครองพยาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. นำโดย พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รอง ผกก.2.บก.ปปป. ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.88/2567 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ในความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ม. 11 และ พ.ร.บ. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ม. 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ม. 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา ม. 91
สืบเนื่องจาก เมื่อระหว่างเดือนพฤษภาคม 2553 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2554 เมื่อครั้งผู้ต้องหาตามหมายจับเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ตำแหน่งพนักงานธุรการ 5 แผนกบริหารทั่วไป ฝ่ายออกแบบระบบไฟฟ้าและงานวิศวกรรมโยธา สังกัดการไฟฟ้านครหลวง ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่บันทึกข้อมูลการทำงานล่วงเวลาของพนักงาน ได้มีพฤติการณ์กระทำการบันทึกข้อมูลการทำงานล่วงเวลาของตนเองอันเป็นเท็จเข้าในระบบคอมพิวเตอร์ (ระบบSAP) โดยอาศัยโอกาสที่ตนเองมีหน้าที่ในการบันทึกการทำงานล่วงเวลาของพนักงานทุกคนในแผนกรวมทั้งตนเอง จึงอาศัยอำนาจหน้าที่ดังกล่าวเข้าไปบันทึกแก้ไขข้อมูลในระบบว่าตนเองมีการทำงานล่วงเวลา (OT) โดยมิได้ขออนุญาตจากหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาตามระเบียบ เป็นเหตุให้การไฟฟ้านครหลวงได้โอนจ่ายเงินค่าทำงานล่วงเวลาของผู้ต้องหาพร้อมกับเงินเดือนของพนักงานแต่ละคนเข้าบัญชีเงินเดือนของผู้ต้องหาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2553 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2554 รวมจำนวน 18 เดือน เป็นเงินทั้งสิ้น 115,859.52 บาท ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิด แต่ผู้ต้องหาไม่ไปพบพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลตามกำหนดนัด พนักงานสอบสวนจึงออกหมายจับผู้ต้องหาเพื่อนำผู้ต้องหาฟ้องคดีต่อศาล
ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้ไปสอนดนตรีที่ศูนย์นันทนาการแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. จึงประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2.บก.ปปป. และทำการจับกุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-119.-สำนักข่าวไทย