กรุงเทพฯ 13 เม.ย. – ธ.ก.ส.เดินหน้าโครงการประกันภัยข้าวนาปี 61 หนุนค่าเบี้ยลูกค้า 36 บาท/ไร่ เป้าหมาย 30 ล้านไร่
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน ครม.มีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนผู้เพาะปลูกข้าวหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) กับกรมส่งเสริมการเกษตร ปีการผลิต 2561/2562 ให้ได้รับการคุ้มครองและลดความเสี่ยงจากปัญหาภัยธรรมชาติ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลระยะยาว กำหนดพื้นที่เป้าหมาย 30 ล้านไร่
ทั้งนี้ แบ่งเป็นเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. 29 ล้านไร่ และเกษตรกรทั่วไป 1 ล้านไร่ ค่าเบี้ยประกัน 90 บาท/ไร่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยคุ้มครองความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ 6 ประเภท ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้งฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ และไฟไหม้ วงเงินคุ้มครอง 1,260 บาท/ไร่ กรณีเสียหายจากภัยศัตรูพืชและโรคระบาด วงเงินคุ้มครอง 630 บาท/ไร่ ทั้งนี้ รัฐบาลให้การอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยกับเกษตรกรในอัตรา 54 บาท/ไร่ โดยเกษตรกรจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 36 บาท/ไร่
นายอภิรมย์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการจูงใจให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.มีความเข้าใจในเรื่องการทำประกันภัยและสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยได้อย่างทั่วถึง ธ.ก.ส.จึงพร้อมรับภาระจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยในอัตรา 36 บาท/ไร่สำหรับลูกค้าที่กู้เงินกับ ธ.ก.ส. ส่วนการประเมินความเสียหายเป็นไปตามหลักเกณฑ์การประกาศภัยของทางราชการ กรณีพื้นที่เอาประกันภัยเสียหายแต่ไม่อยู่ในเกณฑ์การประกาศภัยของทางราชการ มีคณะกรรมการประเมินความเสียหายรายแปลง เพื่อให้เกษตรกรที่ประสบความเสียหายได้รับประโยชน์จากการทำประกันภัยมากที่สุด สำหรับเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ยกเว้นพื้นที่ภาคใต้เกษตรกรสามารถขอเอาประกันภัยได้ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2561 .-สำนักข่าวไทย