นครราชสีมา 6 เม.ย. -กฟผ.
เตรียมเปิดใช้ระบบกักเก็บพลังงานหมุนเวียนแบบไฮบริดจับคู่พลังงานลมกับเซลล์เชื้อเพลิงแห่งแรกในเอเชีย
เพื่อพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมในการเพิ่มขีดความสามารถของพลังงานหมุนเวียนในอนาคตอย่างยั่งยืน
นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานใหม่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
กล่าวว่า กฟผ.
กำลังดำเนินการพัฒนานวัตกรรมต้นแบบของระบบกักเก็บพลังงานจับคู่กับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม
เพื่อช่วยลดข้อจำกัดและแก้ปัญหาความไม่เสถียรของการผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าได้เพียงบางช่วงเวลาซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในอนาคตของไทย โครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าลำตะคอง ระยะที่ 2
ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำบนเขายายเที่ยง
อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพพลังงานลมในการผลิตไฟฟ้ามากที่สุดในประเทศไทย
โดยติดตั้งกังหันลมจำนวน 12 ต้น
กำลังผลิตรวม 24 เมกะวัตต์
ซึ่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมปีที่แล้ว
ปัจจุบัน
กฟผ. กำลังดำเนินการต่อยอดนำระบบพัฒนาเสถียรภาพการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม (Wind Hydrogen Hybrid) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากกังหันลมในรูปของก๊าซไฮโดรเจน
เพื่อนำมาจับคู่กับเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ผลิตไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์ สำหรับจ่ายไฟฟ้าให้กับศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง ทั้งนี้
ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่นำเอานวัตกรรมดังกล่าวมาใช้กักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากกังหันลมซึ่งจะช่วยให้สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตลอด
24 ชั่วโมง
รวมถึงจะใช้เป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญในด้านการพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานหมุนเวียน
นอกจากนี้ กฟผ.
อยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังน้ำลำตะคองแบบสูบกลับ เครื่องที่ 3
และ4 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะช่วยเพื่อกำลังผลิตติดตั้งรวมถึง1,000
เมกะวัตต์ เป็นเสมือนแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานไฟฟ้าของภาคอีสานที่จะช่วยเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาคอีสานได้อีกส่วนหนึ่ง และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 2.6 แสนตันต่อปี
“การดำเนินการของ กฟผ.
มุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบใหม่ และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่
21 (COP21)” นายสหรัฐ กล่าว-สำนักข่าวไทย