วัดโพธิ์ 4 เม.ย.-คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะฯ สนช.จัดเสวนางานมรดกความทรงจำแห่งโลก Memory of the world วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ให้คนไทยเห็นคุณค่า หวงแหนมรดกภูมิปัญญาไทย นำตำรายาโบราณวัดโพธิ์ มาเผยแพร่องค์ความรู้ให้ผู้สนใจ
คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช.ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข จัดเสวนางานมรดกความทรงจำแห่งโลก Memory of the world วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เพื่อนำเสนอคุณค่าของมรดกภูมิปัญญาของไทย สร้างการรับรู้และเกิดการหวงแหนอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ โดยเฉพาะที่วัดโพธิ์ ในอดีตเปรียบเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทยและเป็นวัดประจำรัชกาลที่1 เป็นแหล่งรวบรวมองค์ความรู้จากปราชญ์ของไทยและตำราการแพทย์ โบราณคดี และวรรณกรรมแขนงต่างๆที่จารึกไว้ตามผนัง เสาพระระเบียงรอบพระอุโบสถ พระวิหารคด และศาลารายภายในวัดโพธิ์ ปัจจุบันวัดโพธิ์ กลายเป็นแหล่งเรียนรู้สรรพวิทยาของไทยในระดับสากล โดยจารึกวัดโพธิ์ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อปี2551 และเป็นความทรงจำแห่งโลก Memory of the world ในปี2554 ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยว ทำให้งานเสวนาวันนี้ มีประชาชนทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้าชมงานอย่างคึกคัก
นายประสาน หวังรัตปราณี เลขาธิการคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สนช. กล่าวว่า การจัดงานเสวนามรดกความทรงจำแห่งโลก วัดโพธิ์จัดขึ้น5วัน ตั้งแต่วันนี้ (4 เม.ย.) ถึง8 เมษายน โดยมีนิทรรศการดผยแพร่องค์ความรู้ตำรายาโบราณ การแพทย์แผนไทย ที่ถอดมาจากแผ่นจารึกรอบระเบียงวัดโพธิ์มาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นตำรายาแห่งชาติ รวมถึงนิทรรศการของกระทรวงสัฒนธรรม ที่นำข้อมูลภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ฤาษีดัดตน มาเผยแพร่ในงานนี้ด้วย โดยจะทำเป็นนิทรรศการถาวรไว้ที่วัดโพธิ์ เพื่อให้ประชาชนร่วมกันหวงแหนมรดกของชาติให้คงอยู่คูแผ่นดินไทย
นอกจากนี้คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สนช.มองว่าการจัดเสวนาครั้งนี้ จะเป็นแนวทางอนุรักษ์ เพื่อให้เกดิการฟื้นฟูจารึกต่างๆภาพจิตรกรรมฝาผนัง และศิลปวัตถุภายในวัดโพธิ์ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้มรดกภูมิปัญญาหลากแขนงของไทย ให้เป็นมรดกของชาติอย่างยั่งยืนสืบต่อไป .-สำนักข่าวไทย