ก.เกษตรฯ รับโอนภารกิจตรวจสอบอาหารนำเข้า

กรุงเทพฯ  2 ต.ค. – กระทรวงเกษตรฯ รับโอนภารกิจตรวจสอบอาหารนำเข้าจาก อย. 338 รายการ เร่งปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องการปฏิบัติ ช่วยสกรีนความปลอดภัยสินค้าอาหาร ปกป้องผู้บริโภคภายในประเทศ


นางสาวดุจเดือน  ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับการถ่ายโอนภารกิจตรวจสอบสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้าจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ตามพิกัดศุลกากร 7 พิกัด ครอบคลุมสินค้ารวม 338 รายการ ประกอบด้วย พิกัด02 ได้แก่ เนื้อสัตว์และส่วนอื่นของสัตว์ที่บริโภคได้ พิกัด03 ได้แก่ ปลา สัตว์น้ำจำพวกครัสตาเซีย โมลลุสก์ และสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ พิกัด 04 ได้แก่ ไข่สัตว์ปีก ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่บริโภคได้ซึ่งไม่ได้ระบุหรือรวมไว้ในที่อื่น พิกัด 05 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ไม่ได้ระบุหรือรวมไว้ในที่อื่น พิกัด 09 ได้แก่ กาแฟ และเครื่องเทศ พิกัด 10 ได้แก่ ธัญพืช และพิกัด 12 ได้แก่ เมล็ดพืชและผลไม้ที่มีน้ำมัน เมล็ดธัญพืชและผลไม้เบ็ดเตล็ด พืชที่ใช้ในอุตสาหกรรม เป็นต้น ส่วนสินค้าเกษตรและอาหารที่ส่งออกแล้วถูกส่งกลับคืนมา หากจะนำมาปรับปรุงเพื่อส่งออกใหม่กระทรวงเกษตรฯ จะเป็นผู้ดูแล แต่หากประสงค์จะนำกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศ อย.ยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบเหมือนเดิม

สำหรับระยะแรก เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ จะตรวจสอบสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้าที่ได้รับการถ่ายโอนภารกิจในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ก่อน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างเร่งผลักดันให้มีการปรับแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ.2551 และพ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับการปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพและควบคุมความปลอดภัยอาหาร ณ ด่านนำเข้า และเพื่อให้เป็นเอกภาพในการบริหารจัดการสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้าทั้งระบบ และระยะต่อไปคาดว่าจะมีการถ่ายโอนภารกิจตรวจสอบสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้าในกลุ่มพิกัดสินค้าอื่น ๆ ต่อไป


ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ เร่งปะสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมปศุสัตว์ กรมวิชาการเกษตร และกรมประมง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการตรวจสอบสินค้าเกษตรนำเข้าตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านการกักกัน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้เป็นทิศทางเดียวกันในการตรวจสอบสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลความปลอดภัยอาหารและอำนวยความสะดวกทางการค้าให้รวดเร็วขึ้น ที่สำคัญยังช่วยปกป้องผู้บริโภคภายในประเทศจากสินค้าที่มีความเสี่ยงและสินค้าที่ไม่ปลอดภัยด้วย

“ไทยจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค อาทิ ปัญหาสารพิษตกค้างปนเปื้อน รวมถึงเรื่องเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค และสารอะฟลาท็อกซินปนเปื้อนในสินค้าเกษตรและอาหาร  เพื่อให้ผู้บริโภคในประเทศได้บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย” เลขาธิการ มกอช.กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว