รพ.กรุงเทพคริสเตียน แจงเด็กดูดเสมหะเยื่อบุตาแตก

สำนักข่าวไทย 18 มี.ค. – หมอจักษุ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แจง เหตุเด็กร้องเส้นเลือดฝอยในตาแตกเกิดขึ้นได้ แต่ต้องสื่อสารให้ผู้ปกครองเข้าใจ ชี้รอยช้ำในตาแดง ไม่ได้เกิดจากถูกทำร้าย แต่ควรตรวจภาวะเส้นเลือด และโลหิตเปราะบางร่วมด้วย เพราะอาการดูมากกว่าเด็กทั่วไป  ขณที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน ชี้แจงกรณี เด็กแฝดป่วย ไวรัสลงหลอดลม ดูดเสมหะ จนเลือดออกใต้เยื่อบุตาขาว ย้ำไม่ได้เกิดจากการทำหัตถการที่รุนแรง แต่เด็กร้องมาก จน  ทำให้เส้นเลือดฝอยในเยื่อบุตาขาวแตก


จากกรณีเฟซบุ๊ก ของ Hhow Angkana  ได้โพสต์เรื่องราวการหลังพาบุตรชายฝาแฝดวัย 3 ขวบ  คือ เด็กชาย อคิระ  และเด็กอคิณ      ไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน    เนื่องจากมีอาการป่าย จากโรค ไวรัสหลอดลมตีบ ลงในหลอดลม และกล่องเสียง  ต้องได้รับดูดเสลด เสมหะ  ในคอเด็กโดยนักกายภาพบำบัด   ปรากฎขั้นตอนการดูดเสลด ได้มีการเชิญผู้ปกครองออกจากห้อง ทราบว่า มีการจับล็อคคอ  เด็กทั้ง 2 คน โดยเด็กทั้ง 2 คน นั้น มีอาการขัดขืน  ร้องไห้ อาเจียน และเมื่อเจ้าหน้าที่ส่งลูกคืนก็ต้องตกใจ  ทำให้ ตาขวาของน้องคิระ  มีการห้อเลือด  สงสัยลูกคงดื้นมาก แต่ทำไมร้องไห้ตาแตกขนาดนี้  พอถึงตา ของน้องคิณ กลับปรากฎตาบวมหนัก ทำให้หน้าแหก ตาแหก แก้มเป็นจ้ำๆ และมีอาการหวาดผวา ร้องไห้  เมื่อต้องมีการดูดเสลดตอนกลางคืนอีก ลุกก็จิตตกผวาตลอดกลัวนางพยาบาล  เมื่อสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอย หรือ การแสดงความรับผิดชอบใดๆ  บอกแต่ว่า เดียวหาย ไม่เป็นอันตราย   จนกระทั่ง ให้เวลาจ่ายเงินออกจากโรงพยาบาล ปรากฎว่า พยายาลมาแจ้งว่า หมอจะให้น้ำตาเทียมไปหยอด  ซึ่งก็คิดเงินในบิลของเราเรียบร้อย  มันตลกมาก


ทางด้าน โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ได้ออกแถลงชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า จาก  เหตุการณ์ ผู้ป่วยเด็กได้รับการดูดเสมหะแล้วมีเลือดออกใต้เยื่อบุตาขาว ผู้ป่วยเด็กอายุสามปีได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล เป็นกรณีฉุกเฉินด้วยการติดเชื้อทางเดินหายใจมีอาการหายใจลำบากและอยู่ในสภาวะวิกฤติ ได้เข้ารับการรักษาในห้องไอซียูโดยทีมแพทย์พยาบาลและนักกายภาพบาบัด การรักษาประกอบด้วยการให้น้าเกลือยาปฏิชีวนะและการเคาะปอดเพื่อดูดเสมหะที่อุดกั้นอยู่ภายในหลอดลม ผู้ป่วยได้รับการรักษาจนพ้นภาวะวิกฤตและย้ายออกจากห้องไอซียู    วันต่อมาการรักษาในหอผู้ป่วย ซึ่งการทากายภาพบาบัดยังคงเป็นองค์ประกอบสาคัญของการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเกิดสภาวะเลือดออกใต้เยื่อบุตาขาวขึ้น สภาวะนี้สามารถเกิดจากการร้อง การไอและทำให้เส้นเลือดฝอยในเยื่อบุตาขาวแตก สภาวะนี้ดูจากภายนอกแม้ดูน่ากลัวเหมือนถูกทาร้ายแต่ไม่ได้เกิดจากความรุนแรงหรือการกระทบกระแทกที่ศีรษะ หรือนัยน์ตาแต่อย่างใด

หลังตรวจพบสภาวะนี้แพทย์เจ้าของไข้ได้มาตรวจประเมินและให้คาแนะนา การดูแลรักษาและได้แนะนาให้ตรวจเพิ่มเติมกับจักษุแพทย์ โดยผู้บริหารโรงพยาบาลได้แก้ไขเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ  วันที่ 17 มีนาคมผู้ป่วยและญาติได้มาพบผู้บริหารของโรงพยาบาลเพื่อรับฟังคาชี้แจงและได้รับการตรวจประเมินจากจักษุแพทย์ และคำแนะนาการดูแลรักษาแล้ว


พญ.ขวัญใจ วงศกิตติรักษ์   จักษุแพทย์ที่ปรึกษา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ  กล่าวว่าจากการตรวจดูดวงตาเด็กจากภาพที่ปรากฎเป็นข่าว เด็กมีภาวะเส้นฝอยทางตาแตก ไม่ใช่เกิดจากการถูกทำร้าย หรืออุบัติเหตุ แต่การเกิดจากร้องไห้อย่างหนัก การร้องตะโกน ร่างกายจึงเบ่ง หรือ ขับ ทำให้เกิดความดันในลูกตาเปลี่ยนไป  แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเด็กจะมีอาการรุนแรงอย่างนี้ นอกจากจะเป็นที่ตาขาว และคลุมลงมาถึงใต้ตา เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ปกครองถึงตกใจ  อย่างไรก็ตาม อาการเช่นนี้จะหายได้เอง ไม่จำเป็นต้องใช้ยาหยอดตา แต่ใน 2-3 วัน รอยช้ำจะยิ่งกระจายแต่ไม่นานก็จะหายได้เอง   แต่ต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง เป็นเรื่องของการสื่อสาร ธรรมชาติของเด็กในการดูดเสมหะ แม้แต่ในผู้ใหญ่เองก็จะกลัว ยิ่งเด็กไม่ควรฝืนมาก หากไม่จำเป็นต้องแก่ชีวิต อย่าางไรก็ตามควรนำเด็กตรวจร่างกาย ดูภาวะเส้นเลือด และโลหิต เพื่อดูความเปราะบางของเส้นเลือด .-สำนักข่าวไทย 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย