กรุงเทพฯ 22 ก.พ.-สนช.มีมติไม่ให้ความเห็นชอบ กกต.ที่ได้รับการสรรหาทั้ง 7 คน หลังประชุมลับซักถามประวัติ ความประพฤติจากคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ส่งผลให้ต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่อีกครั้ง
100 กว่าวันผ่านไปในการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง ต้องกลับมานับหนึ่งใหม่ เมื่อในวันนี้ สนช.ไม่ให้ความเห็นชอบผู้ที่ได้รับการสรรหามาทั้ง 7 คนซึ่งเป็นอดีตข้าราชการและทนายความ โดยยังไม่มีคำอธิบาย เพราะเป็นการประชุมลับและเป็นเอกสิทธิของสมาชิก สนช.ที่ลงคะแนนโดยลับเช่นกัน แต่มีรายงานว่าก่อนตัดสินใจ ได้มีการซักถามและฟังข้อมูลการตรวจสอบประวัติความประพฤติและจริยธรรม จากคณะกรรมาธิการที่มี พล.อ.อู้ด เบื้องบน เป็นประธาน โดยใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง
บางคนมีเรื่องร้องเรียนนับร้อยเรื่อง บางคนขาดประชุมบ่อย แล้วอ้างปัญหาเรื่องสุขภาพ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่ผ่านการพิจารณา แต่ที่ยังเป็นข้อกังขาและต้องหาคำตอบว่า เหตุใดจึงไม่มีใครได้รับการเลือกด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ 248 คน คือ 124 คะแนน จึงทำให้ต้องมาเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่
แต่จากบทเรียนในครั้งนี้ ประธาน สนช.หนึ่งในกรรมการสรรหา ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอ่อนประชาสัมพันธ์ ทำให้คนเข้ารับการสรรหาน้อย เนื่องจากไม่เข้าใจว่าคุณสมบัติเข้าข่ายสมัครได้หรือไม่ ฉะนั้นจะเร่งประชาสัมพันธ์ เพราะไม่ใช่แค่ทนายความ อดีตข้าราชการที่ทำงานในระดับ 10 และเป็นหัวหน้าหน่วยงานเท่านั้น แต่ยังมีคนในวิชาชีพอื่นอาทิพยาบาล แพทย์ วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี ที่ทำงานมีประสบการณ์เกินกว่า 10ปี ก็มีสิทธิเข้ารับการสรรหา แต่ยังคงไม่กล้าใช้วิธีเชิญหรือทาบทามคนมาสมัคร เพราะไม่มั่นใจว่า สนช.จะให้ความเห็นชอบ แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือ การล้มกระดานในครั้งนี้ ไม่มีใบสั่งจาก คสช.หรือจากใคร และไม่กระทบโรดแมปการเลือกตั้งที่ยังคงจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
นับจากนี้ต้องจับตาในเวลา 90 วันที่กรรมการสรรหาต้องเริ่งสรรหา กกต.ใหม่ ตั้งแต่การรับสมัคร เชิญมาสัมภาษณ์ และอาจต้องมีการสอบประวัติอย่างละเอียด เพื่อกรองในชั้นแรก จากนั้น สนช.มีเวลาอีก 45 วัน ในการตรวจสอบก่อนตัดสินใจอีกครั้ง และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สนช.เลือก กกต.ใหม่มาแล้วเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย และทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย