อสมท 19 ก.พ.-สรุปจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ใดในคดีหวยอลเวง แต่ในอนาคตหากผลการสอบสวนชี้ชัดว่าสลากฯ เป็นของผู้ใด ก็แน่ชัดว่าจะต้องมีคนถูกดำเนินคดีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
หากจำกันได้ในครั้งที่สำนวนอยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ชี้ชัดว่าสลากฯ 533726 เป็นของ “ครูปรีชา” ทำให้ “หมวดจรูญ” ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฐานยักยอกทรัพย์ แต่เมื่อสำนวนคดีหวยอลเวงนี้ถูกถ่ายโอนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มาให้ส่วนกลางทำ ทำให้ต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ ถ้าหากว่าผลสรุปคดีนี้ชี้ชัดว่าสลากฯ 30 ล้านบาท เป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ก็แน่นอนว่าจะมีคนถูกดำเนินคดี
“ถ้า” ผลการสอบสวนบ่งชี้ชัดว่า สลากฯ เป็นของ “ครูปรีชา” ก็เท่ากับว่าอีกฝ่ายหรือ “หมวดจรูญ” จะถูกดำเนินคดีในเบื้องต้นอย่างน้อย 1 ฐานความผิด คือ ยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 โดยระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ถ้า” ผลการสอบสวนบ่งชี้ชัดว่า สลากฯ เป็นของ “หมวดจรูญ” ก็เท่ากับว่าอีกฝ่าย หรือ “ครูปรีชา” จะถูกดำเนินคดีอย่างน้อย 2 ฐานความผิดในเบื้องต้น คือ แจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนฯ ตามมาตรา 172 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอีกฐานความผิดคือ รู้ว่าไม่มีการกระทำผิด แต่กลับไปแจ้งความว่ามีการกระทำผิด ตามมาตรา 173 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท และต้องไม่ลืมว่า หากสลากฯ เป็นของ “หมวดจรูญ” ก็เป็นไปได้ว่า นอกจาก “ครูปรีชา” ที่จะถูกดำเนินคดีแล้ว ก็อาจมีผู้สมรู้ร่วมคิดถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย