กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – กฟผ.ยืนยันกรณีปัญหาอากาศแปรปรวนและเกิดฝุ่นละออง ไม่ได้เกิดจากการเดินเครื่องโรงไฟฟ้า เพราะให้ความสำคัญดูแลด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล
ว่าที่พันตรีอนุชาต ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการชุมชนสัมพันธ์และสิ่งแวดโครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง หรือพีเอ็ม 2.5 ไมครอน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลนั้น เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวนไม่ได้เกิดจากการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าของ กฟผ. แต่อย่างใด โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาดำเนินงานภายใต้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายกำหนดทุกด้าน โดยเตรวจวัดคุณภาพอากาศตามระยะเวลาที่กำหนด ทั้งบริเวณปากปล่องโรงไฟฟ้าและการตรวดวัดในบรรยากาศ โดยบริเวณปากปล่องโรงไฟฟ้ามีการตรวจวัดฝุ่นละออง ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน โลหะหนัก สารปรอท แคดเมียม สารหนู และสารตะกั่ว สำหรับการตรวจวัดในบรรยากาศมีการตรวจวัดฝุ่นละอองรวม ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน ฝุ่นละอองขนาดขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และตรวจวัดก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ซึ่งผลการตรวจวัดมีค่าดีกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดทุกพื้นที่และทุกครั้งที่ทำการตรวจวัด
“กฟผ.ขอยืนยันว่าปัญหาฝุ่นละอองหรือพีเอ็ม 2.5 ไมครอนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ได้มาจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และไม่ได้มาจากโรงไฟฟ้าของ กฟผ.อย่างแน่นอน เพราะ กฟผ.ให้ความสำคัญกับการผลิตไฟฟ้าและการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานในทุกด้านตลอดมา ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการตรวจวัดและติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมของ กฟผ. ด้วย นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นในการผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทยควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้มีความอยู่ดีกินดีอย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป” ผู้ช่วยผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย