กรุงเทพฯ 8 ก.พ. – บางกอกกล๊าสรุกธุรกิจวัสดุก่อสร้างและพลังงานทดแทน สอดรับนโยบายภาครัฐ ย้ำไม่มีนโยบายปลดพนักงาน ตั้งเป้ารายได้เพิ่มเป็น 30,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี
นายปวิณ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าลงทุนธุรกิจวัสดุก่อสร้างและพลังงาน เนื่องจากกำลังเป็นธุรกิจที่เติบโตค่อนข้างดีสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลทั้งเรื่องพลังงานทดแทนและการมีโครงการก่อสร้างภาครัฐ ส่วนการยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรม 4.0 นั้น ปีนี้ตั้งงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยการนำระบบอัตโนมัติและ AI เข้ามาเสริมกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพการผลิต อย่างไรก็ตาม ไม่มีนโยบายลดจำนวนพนักงาน โดยพนักงานจะเข้ามาควบคุมเครื่องจักรระบบอัตโนมัติ บริษัทยังมีงบอีก 6,000 ล้านบาทที่จะลงทุนเพิ่มภายในช่วง 1-2 ปีนี้รวมแล้วจะใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท เป็นงบลงทุนด้านอื่น ๆ โดยการลงทุนจะครอบคลุมธุรกิจกลุ่มบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ ของบริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัดด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 12,000 บาท ปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่าร้อยละ 10 ด้วยเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ 16,000 ล้านบาทและตามแผนธุรกิจ 5 ปี (ปี 61-64) ตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้เพิ่มจากปีละ 16,000 ล้าน บาทเป็น 30,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังเตรียมยื่นข้อมูลบริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด หรือ BGC ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อเตรียมการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งทิศทางเศรษฐกิจของประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น บริษัท BGC ผลิตขวดแก้วมากกว่า 4,000 ล้านขวดต่อปี โดยร้อยละ 45 ป้อนให้กับบุญรอดบริเวอรี่ อีกร้อยละ 65 ขายให้ธุรกิจอื่น ๆ
ขณะเดียวกันบริษัทบางกอกกล๊าสได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง โดยการตั้งบริษัท บีจี โฟลต กล๊าส จำกัด งบก่อตั้งโรงงาน 5,000 ล้านบาท ถือหุ้นร้อยละ 95 ส่วนอีกร้อยละ 5 เป็นการถือหุ้นผู้ลงทุนจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริษัทนี้ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายกระจกแผ่น ตั้งโรงงานที่อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี บนเนื้อที่ 150 ไร่ กำลังการผลิต 219,000 ตันต่อปี ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดกระจกในประเทศคิดเป็นร้อยละ 18 ของตลาดรวม รวมถึงส่งกระจกไปจำหน่ายตลาดประเทศเพื่อนบ้าน และยังมีความสนใจที่จะขยายการผลิตวัสดุก่อสร้างไปสู่แผ่นยิปซั่ม รวมถึงวัสดุใช้ปูพื้นและเพดาน
นอกจากนี้ บริษัทยังเข้าสู่ธุรกิจพลังงานผ่านบริษัท บีจี เอ็นเนอร์ยี่ โซลูชั่น จำกัด เน้นพลังงานทดแทน ขณะนี้เริ่มต้นลงทุนระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าซึ่งใช้เองภายในบริษัท 4.5 เมกะวัตต์ และภายในปีนี้วางแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 10 เมกะวัตต์ ซึ่งมีแผนที่จะออกไปลงทุนในประเทศเอเชียเหนือ รวมถึงญี่ปุ่นพิจารณาลงทุนทั้งโซล่าเซลล์และพลังงานลม สำหรับกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้หากเหลือจากการใช้เองหรือธุรกิจที่เข้าไปร่วมลงทุนหรือซื้อกิจการที่ขายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบแล้วก็จะเป็นการขายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) .- สำนักข่าวไทย