รัฐเบิกจ่ายงบฯ ล่าช้าฉุดการขยายตัวอุตฯ ก่อสร้าง

กรุงเทพฯ 15 มี.ค. – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ชี้การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า ฉุดการเติบโตอุตสาหกรรมก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง-รับเหมาสะดุด คาดปีหน้าจะเติบโตได้ดี แต่ยังห่วงเหล็กจีนทะลักไทย


นายวิกรม วัชระคุปต์ ประธานคลัสเตอร์วัสดุก่อสร้าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวในงานสัมนา Green Construction toward ESG Achievement” จัดโดยคลัสเตอร์วัสดุก่อสร้าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ว่าการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวเพียงเล็กน้อย ประมาณ 2% มูลค่าประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท โดยเป็นการขยายตัวจากการก่อสร้างของภาครัฐ 2% โดยส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างโครงการต่อเนื่องจากอดีต เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟฟ้า โครงการมอเตร์เวย์ และการก่อสร้างในภาคเอกชน ขยายตัว 3% โดยเป็นโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงการปรับปรุงซ่อมแซมโรงแรมที่สอดคล้องกับการขยายตัวในภาคการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อแนวโน้มความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง ซึ่งคาดการร์ว่า ปี 2567-2568 ความต้องการจะเติบโตขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 3.5-4 ต่อปี อย่างไรก็ตามกลุ่มวัสดุสร้างประสบปัญหาความท้าทายจากการชะลอตัวของการลงทุนในภาครัฐ เนื่องจากความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐ รวมถึงการที่สินค้าวัสดุก่อสร้างจากประเทศจีน โดยเฉพาะเหล็กที่เข้ามาตีตลาดไทย กระทบผู้ผลิตเหล็กของไทย เนื่องจากปัญหาวิกฤตอสังหาฯในจีน ทำให้การลงทุนก่อสร้างในสจีนชะงัก จึงมีเหล็กเหลือจำนวนมากต้องส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ที่สำคัญเหล็กที่นำเข้าจากจีนมีราคาต่ำกว่าเหล็กที่ผลิตในประเทศ จึงทำให้ผู้รับเหมาเลือกใช้เหล็กจากจีนแทนเพื่อลดต้นทุน

“งบประมาณรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นงบลงทุนซึ่งเกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ความล่าช้าของการเบิกจ่ายจึงทำให้การก่อสร้างในโครงการต่างๆชะลอตัว ไม่เกิดการลงทุนโครงการใหม่ ๆ และไม่เฉพาะโครงการของภาครัฐ โครงการของภาคเอกชนก็รอดูทิศทางความชัดเจนเช่นกัน แต่หลังจากเบิกจ่ายงบฯได้แล้ว ก็คาดหวังว่าจะทำให้โครงการต่างๆที่ชะงักกลับมาดำเนินการต่อได้ ซึ่งหวังว่าจะเกิดประโยชน์ทั้งเซกเตอร์ แม้ว่าเวลาจะเหลือน้อยก็ตาม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของวัสดุก่อสร้างในปีนี้ภาพรวมเรียกว่าไม่หวือหวา อยู่ในภาวะประคองตัวจากปีที่แล้ว เนื่องจากความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ แต่คาดว่าตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปจะมีการเติบโตขึ้น หลัก ๆ คือนโยบายภาครัฐที่ต้องการกระจายความเจริญสู่ชนบทมากขึ้น การกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยว ซอร์ฟเพาเวอร์ต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้มีการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งจะทำให้เติบโตมากกว่าที่เห็น ” นายวิกรม กล่าว


ส่วนเรื่อง Green Construction นับว่าเป็นโอกาสในระยะยาวของภาคอุตสาหกรรม เพราะทั่วโลกมุ่งไปในทางนี้ เนื่องจากมาตรการ CBAM ซึ่งในส่วนของกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาสักระยะแล้ว อย่างกลุ่มซีเมนต์ ที่ดำเนินการไปแล้ว กลุ่มเหล็กที่อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องคาร์บอนฟุ๊ตปรินท์. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ