เงินสะพัดวาเลนไทน์-ตรุษจีนกว่า 6 หมื่นล้าน

กรุงเทพฯ 8 ก.พ. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจเทศกาลวันวาเลนไทน์-ตรุษจีนปีนี้คึกคัก เงินสะพัดกว่า 60,000  ล้านบาท มูลค่าสูงแต่ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะคึกคักมากกว่าเดิม คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 56,860 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.52 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 45.9 ระบุว่าจะซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่มูลค่าการใช้จ่ายสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจดีขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น และสินค้าปีนี้แพงขึ้นด้วย ซึ่งการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนส่วนใหญ่ซื้อของเซ่นไหว้ รองลงมาไปทำบุญ ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ให้แต๊ะเอีย ซื้อเสื้อผ้ารองเท้า และท่องเที่ยว ตามลำดับ 

ทั้งนี้ มีการวางแผนไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.3 ไม่มีการวางแผนท่องเที่ยว  ส่วนอีกร้อยละ  23.7 วางแผนท่องเที่ยว โดยร้อยละ 85 จะเที่ยวในประเทศ เดินทางท่องเที่ยววันที่ 16 กุมภาพันธ์ และกลับวันที่ 18 – 19 กุมภาพันธ์ โดยเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและไปกับครอบครัว ขณะที่อีกร้อยละ 15 จะไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว  ซึ่งประเทศที่จะไปเที่ยวส่วนใหญ่ยังอยู่ในเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลี


ส่วนเทศกาลวันวาเลนไทน์วันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 3,822.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ  3.10 ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 11 ปี โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 53.1 จะมีการฉลองในวันวาเลนไทน์ ส่วนร้อยละ  41.9 ไม่ฉลอง โดยการแสดงความรักส่วนใหญ่ร้อยละ  56.4 จะแสดงความรักกับคนรักรองลงมาร้อยละ 18.1 แสดงความรักกับพ่อแม่ และร้อยละ 7.8 แสดงความรักกับเพื่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ประมาณ 2,395 บาทต่อคน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ร้อยละ 51.3 ยังคงซื้อของให้กันในปริมาณเท่าเดิม แต่มูลค่าสูงขึ้น เพราะส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 53.6 เห็นว่าสินค้าแพงขึ้น เศรษฐกิจกิจดีขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ร้อยละ 12.4 ตอบว่ามูลค่าการใช้จ่ายลดลง เนื่องจากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและสินค้ามีราคาแพง ซึ่งใช้จ่ายส่วนใหญ่จะซื้อดอกไม้ รองลงมาเป็นเดินห้าง และซื้อของขวัญ โดยทั้ง 2 เทศกาลจะทำให้เงินสะพัดรวมกันมากกว่า 60,000 ล้านบาท มูลค่าสูงสุดในรอบ 10 ปี แต่ขยายตัวน้อยสุดรอบ 6 ปี ถือเป็นการเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจโดยรวมอีกร้อยละ 0.3 ของจีดีพี แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่สูงแต่ก็เป็นช่วงที่ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยอย่างระมัดระวัง เพราะเป็นช่วงเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร