เร่งผลักดันส่งออกโค้งสุดท้ายของปี

นนทบุรี 7 ต.ค.-กระทรวงพาณิชย์เรียกเอกชนรายใหญ่ 3 หารือเพื่อผลักดันการส่งออกโค้งสุดท้ายของปีนี้มห้กลับมาเป็นบวก พร้อมวางแผนผลักดันการส่งออกปีหน้าด้วย


นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมหารือร่วมกับเอกชนรายใหญ่ใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มยานยนต์ อาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ส่งออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ว่า ยังคงมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันการส่งในปีนี้ให้กลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ แม้ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกจะยังคงติดลบร้อยละ 1.2 รวมทั้งยังหารือร่วมกันเพื่อวางแผนผลักดันการส่งออกในปีหน้าให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายร้อยละ 3

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 กลุ่มมีสัดส่วนต่อการส่งออกภาพรวมของไทยประมาณร้อยละ 30 แบ่งเป็นกลุ่มยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีสัดส่วนต่อการส่งออกร้อยละ 15.3 กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ มีสัดส่วนต่อการส่งออกร้อยละ 7.4 และ กลุ่มอาหาร มีสัดส่วนต่อการส่งออกในภาพรวมร้อยละ 8.2 ซึ่งการส่งทั้ง 3 กลุ่มยังคงขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร และประมง โดยเอกชนจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้นำเข้าในต่างประเทศ เกี่ยวกับคุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัยของสินค้าอาหารของไทย ซึ่งนอกจากการเข้าไปเจาะในตลาดใหม่แล้ว ภาคเอกชนเองต้องการให้ภาครัฐนำคณะไปประชาสัมพันธ์สินค้าไทยในตลาดเก่า ที่มีการซื้อหาสินค้าจากไทยจำนวนมากอยู่แล้ว เพื่อให้ยังคงนำเข้าสินค้าจากไทยอย่างต่อเนื่องและยังได้ขอให้ผู้ประกอบการเร่งสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าส่งออกของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร เช่น หากต้องการซื้อข้าว ต้องเป็นข้าวจากประเทศไทยเท่านั้น เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่น ตลอดจนให้ผู้ประกอบการทำสินค้าให้ได้มีมาตรฐาน GAP มากขึ้นด้วย


 

ส่วนความกังวลของกลุ่มเกษตรกรต่อการนำเข้าข้าวโพด ข้าวสาลี จากต่างประเทศของผู้ประกอบการอาหาสัตว์ จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรในประเทศนั้น ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือกลุ่มผู้ผลิตอาหารสัตว์ชะลอการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศไปจนถึงสิ้นปีนี้ รวมทั้งจะมีการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ในการกำหนดหลักเกณฑ์การนำเข้าวัตถุดิบผลิตอาการสัตว์จากต่างประเทศให้มีความเข้มงวดมากขึ้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จุดจบแก๊งทุจริตยา

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. บุกรวบแพทย์หญิง และเครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบข้อมูล ไปจ้างคนที่มีสิทธิเบิกราชการ หัวละ 1,000 เข้ามารับยา ก่อนเอาไปปล่อยต่อเม็ดละ 20 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋า 60 ล้าน ทำมาแล้ว 8 ปี

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]