ภูมิภาค 5 ก.พ.- เด็กยอดกตัญญูเป็นสัปเหร่ออาสา ต้องออกจากโรงเรียนมาดูแลแม่ที่ป่วยเบาหวาน อีกรายเป็นเด็กเรียนดี กำพร้าพ่อแม่แต่ยากจนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ต้องออกไปรับจ้าง หาเงินเป็นค่าเทอม
เด็กชายปกรณ์ แววโคกสูง อายุ 14 ปี อยู่บ้านตูม หมู่ที่ 8 อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อาศัยอยู่บ้าน 2 ชั้น สภาพเก่าทรุดโทรมร่วมกับครอบครัวของคุณอา ซึ่งมีลูกหลานรวม 7 คน หลังจากพ่อกับแม่ของน้องปกรณ์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ น้องปกรณ์เป็นลูกคนเดียว ต้องกำพร้าพ่อแม่และต้องอาศัยในห้องนอนขนาดเล็ก สภาพผุพัง มีเพียงรูปถ่ายของพ่อและแม่วางอยู่บนหัวนอนไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
นางต้อย แววโคกสูง อายุ 50 ปี ผู้เป็นอา เล่าให้ฟังว่า รับเด็กชายปกรณ์มาเลี้ยงดู หลังจากกำพร้าพ่อแม่ น้องเป็นเด็กดี ช่วยงานบ้าน แบ่งเบาภาระงานบ้านเป็นอย่างดี ช่วยกวาดบ้านถูบ้าน ล้างจาน และวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ออกไปรับจ้างปลูกมันสำปะหลัง หารายได้เลี้ยงดูตัวเอง เป็นค่าเทอม ค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายส่วนตัว ต้องออกไปทำงานช่วยเหลือตัวเองอย่างนี้มานานกว่า 5 ปี
นางต้อย ผู้เป็นอา เล่าอีกว่า ลำพังครอบครอบครัวตนเองก็ลำบากขัดสน ตนก็ไม่มีงานทำ ซ้ำยังต้องเลี้ยงดูลูกๆ ของตัวเอง และหลานๆ รวม 7 คน ไม่สามารถอุ้มชูเลี้ยงดูน้องปกรณ์ได้อย่างเต็มที่ จึงอยากวอนขอความช่วยเหลือผู้ใจบุญ ช่วยซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยให้ และต้องการเงินทุนการศึกษาให้กับน้องปกรณ์ ได้มีโอกาสเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพราะน้องเป็นเด็กเรียนดี ขยันหมั่นเพียร เกรงจะเสียโอกาสทางการศึกษา
ส่วนอีกราย เป็นเด็กชายพีรพงษ์ ชูประเสริฐ หรือน้องมิว เด็กยอดกตัญญูต้องไปเป็นสัปเหร่ออาสาคอยช่วยทำหน้าที่เผาศพ และต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ชั้น ป.5 เพื่อมาดูแลแม่ที่ป่วยเบาหวานรวมทั้งช่วยแม่กรีดยางและทำทุกอย่างเพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว
ล่าสุดหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ช่วยสร้างบ้านหลังใหม่ให้แล้วจากเดิมที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านที่เก่าใกล้พัง แต่น้องมิวยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปเป็นเพื่อนแม่กรีดยาง จากนั้นก็กลับมาช่วยพระวัดหูแร่ ออกเดินบิณฑบาต เสร็จแล้วก็ต้องกลับไปช่วยแม่เก็บน้ำยางจนเสร็จเป็นแบบนี้ทุกวันไม่เปลี่ยนแปลง ยามว่างก็ออกรับจ้างทั่วไปเพื่อหารายได้เสริมมาช่วยแม่ หากมีงานบ้านงานบุญก็ออกไปช่วยไม่ขาด รวมทั้งยังคงทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อเหมือนเดิมหากมีการเผาศพ
น้องมิว บอกว่า แม้จะได้รับการช่วยเหลือเรื่องบ้านและเงินอีกบางส่วนซึ่งความเป็นอยู่ดีกว่าแต่ก่อนมา แต่ทุกวันก็ยังใช้ชีวิตตามปรกติไม่เปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยเหลือแม่ซึ่งเป็นเรื่องปรกติแม้บางครั้งจะเหนื่อยแต่ก็ชินและจะทำอย่างนี้ต่อไปส่วนเรื่องเรียนหากมีโอกาสก็จะกลับมาเรียนอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย