นักธุรกิจรัสเซียเตรียมบุก EEC กุมภาพันธ์นี้

นนทุบรี  2 ก.พ. – พาณิชย์เผยคณะนักธุรกิจชั้นนำรัสเซีย 20 บริษัท เตรียมเยือนไทย 20-23 ก.พ.นี้ หารือด้านเศรษฐกิจและการค้า พร้อมลงพื้นที่  EEC ดูลู่ทางการลงทุน


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังหารือนายคีริลล์ บาร์สกี เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ว่า ได้มีการหารือรายละเอียดกำหนดการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายอเล็กเซย์ กรูซเดียฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งจะนำทีมคณะนักธุรกิจรัสเซียที่สนใจเข้ามาลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย

นายสนธิรัตน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า รัสเซียเป็นคู่ค้าอันดับ 29 ของไทยในตลาดโลกและอันดับ 1 ในกลุ่มเครือรัฐเอกราช (CIS) ไทยและรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีและราบรื่นตลอด โดยปี 2560 ทั้ง 2 ประเทศร่วมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 120 ปี มีการพบหารือระดับสูง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2ประเทศ และมีการจัดกิจกรรมทั้งของภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และขยายความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ นับเป็นการเน้นย้ำความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกันทุกมิติ


ในโอกาสนี้เอกอัครราชทูตสหพันรัฐรัสเซียได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า รวมถึงกำหนดการเยือนของนายอเล็กเซย์ กรูซเดียฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่างวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ 2561 โดยจะนำคณะนักธุรกิจชั้นนำของรัสเซียประมาณ 20 บริษัท ในสาขาที่รัสเซียมีความเข้มแข็งและเป็นอุตสาหกรรม S-Curve ของไทย ร่วมเดินทางมาศึกษาโอกาสการลงทุนในโครงการ EEC อาทิ กลุ่มเทคโนโลยีสร้างสรรค์  พลังงานนิวเคลียร์ น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ บริหารท่าเรือ สนามบิน รักษาความปลอดภัย ยานยนต์เพื่อการก่อสร้างและอาวุธ ยานยนต์ทั่วไป ผลิตภัณฑ์เหล็ก เทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีสื่อสาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัสเซียที่ต้องการจะพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับไทย โดยขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ระหว่างการหารือรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นระหว่างการเยือน ได้แก่ การพบหารือในระดับสูง การสัมมนาภาคธุรกิจไทย-รัสเซีย การพบปะหารือจับคู่ระหว่างภาคธุรกิจ และการเยี่ยมชมดูงานภายใต้โครงการ EEC เพื่อให้ความรู้ต่อนักลงทุนรัสเซียเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนในโครงการ EEC ของไทย

ทั้งนี้ ในปี 2560 ไทยและรัสเซียมีมูลค่าการค้ารวม 3,130 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 61.20 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ข้าว อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป สินค้านำเข้าสำคัญของไทย ได้แก่ น้ำมันดิบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ถ่านหิน พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ และเนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง