ทำเนียบรัฐบาล 2 ก.พ.-พล.อ.ประวิตรกำชับทุกหน่วยบูรณาการงานด้านแรงงาน ขยายเวลาพิสูจน์สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมาถึง 30 มิ.ย. เชื่อทำสำเร็จส่งผลดีแก้ปัญหาค้ามนุษย์
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมสัมมนาแถลงแผนปฏิบัติการสนับสนุนการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติและการออกใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงแรงงาน อธิบดีกรมการจัดหางาน เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ทูตแรงงานกัมพูชาประจำประเทศไทย อัครรัฐทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ประจำประเทศไทย องค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ไอแอลโอ) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน(ไอโอเอ็ม) ร่วม ประชุม
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้พิสูจน์สัญชาติไปแล้ว 1,187,411 คน คงเหลือยังไม่ได้พิสูจน์สัญชาติอีก 811,829 คน โดยคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการพิสูจน์สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมาถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 รัฐบาลจึงได้จัดทำแผนปฏิบัติงานตรีเทพเพื่อสนับสนุนการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติคือ กัมพูชา ลาวและเมียนมาให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งพล.อ.ประวิตรในฐานะประธาน คณะกรรมการนโยบายการจัดหางานปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน(กนร.) เห็นชอบแผนดังกล่าวและมอบนโยบายให้ทุกหน่วยงาน เพื่อให้ขับเคลื่อนการปฏิบัติแผนให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยกระทรวงแรงงานมีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้เกิดความสะดวก ลดระยะเวลา ลดขั้นตอนและดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า แผนดังกล่าวให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการบริหารจัดการเพื่อการทำงานของคนต่างด้าว(ศปก.บต.รง.) ให้ส่วนกลาง ซึ่งมีกระทรวงแรงงานเป็นผู้อำนวยการศูนย์ มีอำนาจกำกับ ติดตามการดำเนินงานของศูนย์บริการเบ็ดเสร็จหรือ One Stop Service (OSS) และศูนย์ปฏิบัติการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวจังหวัดในภาพรวมของประเทศ จัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยจังหวัด(กตจ.) ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน สำหรับกรุงเทพมหานครมีอธิบดีกรมการจัดหางานเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่กำกับติดตามการดำเนินงานของศูนย์ OSS จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวกรุงเทพมหานคร(ศปก.บต.) ซึ่งจะมีจำนวน 2 ศูนย์
“ศูนย์ปฏิบัติการการบริหารจัดการเพื่อการทำงานของคนแรงงานต่างด้าวในส่วนภูมิภาคอีกจำนวน 11 ศูนย์ เพื่อพิสูจน์สัญชาติ โดยปลัดกระทรวงแรงงานแต่งตั้งผู้ตรวจราชการจังหวัดระดับกรมเป็นผู้อำนวยการศูนย์ ตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ( One Stop Service :OSS) ในกรุงเทพมหานครโดยมีอธิบดีกรมการจัดหางานเป็นผู้อำนวยการศูนย์และในทุกจังหวัด ทำหน้าที่จัดทำปรับปรุงระเบียบประวัติและขออนุญาตทำงานโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ ประสานความร่วมมือเอกอัครราชทูตกัมพูชา ลาว เมียนมา ให้บริการจัดการการพิสูจน์สัญชาติให้เกิดประสิทธิภาพโดยเพิ่มเจ้าหน้าที่อุปกรณ์เครื่องมือในการดำเนินงาน” พล.ต.อ.อุลย์ กล่าว
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรมอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันเพื่อให้เกิดความสำเร็จ โดยให้ทุกหน่วยงานร่วมปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว ในขั้นตอน / เวลาไม่เรียกรับผลประโยชน์ แลประชาชนพอใจ ให้หัวหน้าส่วนราชการเป็นหลักดำเนินการตามแผน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ประสานความร่วมมือ 3ประเทศกัมพูชา ลาวและเมียนมา เพื่อให้การบริหารศูนย์เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงการเพิ่มเจ้าหน้าที่และเครื่องมือให้เพียงพอในการทำงาน ขณะที่ฝ่ายไทยพร้อมสนับสนุนและติดตามแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานแล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด
“หากการทำงานเกิดผลสำเร็จจะทำให้มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้เป็นที่ยอมรับของสากล ส่วนแรงงานที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนกว่า 8 แสนคนจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามเวลาที่กำหนด และหากการทำงานในครั้งนี้เสร็จสิ้น จะส่งผลดีต่อการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย
