ทำเนียบรัฐบาล 1 ก.พ.-วิษณุระบุถ้ากรมบังคับคดียึดบ้านยิ่งลักษณ์ คนในครอบครัวยังอยู่ได้ แต่ต้องเสียค่าเช่า ไม่ใช่เจ้าของบ้าน ยืนยันทำทุกอย่างเหมาะสม ไม่ได้เอาเป็นเอาตาย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังศาลปกครองยกคำร้องขอทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์ในคดีปล่อยปะละเลยให้ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังสามารถมอบหมายให้ทนายความร้องขอทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์ได้ ส่วนการยึดบ้านที่ซอยโยธินพัฒนา 3 จะต้องดูว่าเอกสารสิทธิและโฉนดเป็นชื่อใคร และถ้าเป็นสินสมรสจะสามารถยึดได้เฉพาะส่วนหนึ่ง ส่วนเมื่อยึดทรัพย์แล้วสามารถขายทอดตลาดได้เลยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณของกรมบังคับคดี
“หากพิจารณาแล้วเห็นว่าทำได้ก็ทำ แต่หากพบว่ายังเป็นสินสมรสก็ไม่ควรทำหรือพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่ควรขายทอดตลาด เพราะอาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับคดีตามมา ก็อย่าเพิ่งทำ ซึ่งกรมบังคับคดีพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่ควรขาย เพราะอาจจะมีการร้องขอให้ทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์อีก ยืนยันว่าทุกฝ่ายทำอย่างพอสมควร ไม่ใช่จะเอาเป็นเอาตาย เพราะขณะนี้มีคนอยู่อาศัย แต่อย่างน้อยที่ยึดคือไม่สามารถจะนำไปขายได้ แต่เมื่อใดที่เห็นว่าทำแล้วจะไม่มีปัญหากรมบังคับคดีจะพิจารณาขายทอดตลาด” นายวิษณุ กล่าว
ส่วนที่ว่าเมื่อกรมบังคับคดียึดบ้านแล้ว คนในครอบครัวน.ส.ยิ่งลักษณ์จะอยู่อาศัยได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อยู่อาศัยได้ แต่ต้องขออนุญาตหรือเสียค่าเช่า เพราะมีหลายกรณีที่หลังจากรัฐยึดบ้านแล้วอนุญาตให้เข้าไปอยู่อาศัยได้ แต่เป็นการอยู่ในฐานะที่ได้รับการอนุญาตไม่ใช่เจ้าของ ดังนั้น เมื่ออยู่แล้วจะไปตกแต่ง ทาสี ดัดแปลง รื้อถอนไม่ได้ และผู้ที่จะรู้ว่ายักย้าย ถ่ายเท ทรัพย์สินหรือไม่คือเจ้าหนี้หรือกระทรวงการคลัง เพราะกรมบังคับคดีมีหน้าที่เพียงเข้าไปยึด ซึ่งการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินก็มีกฎหมายไว้สำหรับติดตามอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย
