กรุงเทพฯ 28 ม.ค.- รองโฆษก ตร.ยัน คดีหญิงสาวร้องถูกเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในเมืองกาญจนบุรีข่มขืน เกิดขึ้นตั้งแต่ ต.ค.59 ตามกฏหมายต้องแจ้งความภายใน3เดือน จึงถือว่าคดีนี้ขาดอายุความ
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงกรณีหญิงสาววัย 29 ปีถูกเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีข่มขืน ต่อมาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พนักงานสอบสวนอ้างว่าคดีหมดอายุความว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2560 น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่าเมื่อประมาณเดือนตุลาคม ๒๕๕๙ ได้ถูกพระครูไพบูลกาญจนารักษ์ เหมหงษา ข่มขืนกระทำชำเราที่วัดสามพระยา ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังจากนั้นผู้เสียหายและพระครูไพบูลฯ ได้มีเพศสัมพันธ์กันตลอดด้วยความสมัครใจ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงสุด นั้น
รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่าตามกระแสข่าวกรณีพนักงานสอบสวนแจ้งว่าหมดอายุความนั้น ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่าคดีนี้ผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี แต่ภายหลังได้สอบสวนปากคำผู้เสียหายแล้วทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๙ แต่ผู้เสียหายไม่ได้มาร้องทุกข์ดำเนินเนินคดีกับผู้ต้องหาภายใน 3 เดือน ซึ่งความผิดในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น” ตามป.อาญา ม.276 นั้นเป็นความผิดอันยอมความได้ตาม ป.อาญา ม.281 หากไม่ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับแต่รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำความผิดจะทำให้คดีขาดอายุความ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้เพิกเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำความผิดวินัยสงฆ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้มีนโยบายให้พนักงานสอบสวนทำงานตามหลักการข้อกฎหมายด้วยความถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้วเพื่อให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายผู้เสียหายและฝ่ายผู้ต้องหา ซึ่งสอดคล้องกับการปฏิรูปตำรวจในยุคปัจจุบัน เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุดต่อไป.- สำนักข่าวไทย