ทำเนียบ 5 ก.ย.-ศบ.ทก.โดยกองทัพร่วมกับตำรวจ ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กรณีชาวกัมพูชาประท้วงบริเวณหลักเขตแดนที่ 46 พร้อมอำนวยความสะดวก ICRC เข้าเยี่ยมเชลยศึก 18 นาย สถานการณ์เช้านี้ 11 พื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน เหตุการณ์ทั่วไปปกติ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) รายงานสถานการณ์ชายแดน 11 จุด ใน 7 จังหวัด โดยรวมยังคงปกติ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาและป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยในทุกรูปแบบ และในเช้าวันนี้ เวลา 09.30 น. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา
สำหรับกรณีชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน รวมตัวประท้วงใกล้บริเวณหลักเขตแดนที่ 46 เนื่องจากไม่พอใจการติดป้ายของ จ.สระแก้ว กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง บริเวณ บ.หนองจาน และ บ.หนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ให้ประชาชนชาวกัมพูชา 170 หลังคาเรือนย้ายออกจากพื้นที่รุกล้ำประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ทางกองทัพและตำรวจได้จัดกำลังเข้าดูแลสถานการณ์ พร้อมทั้งประสานฝ่ายกัมพูชาให้ควบคุมประชาชนไม่ให้เกิดการยั่วยุบริเวณพื้นที่ชายแดน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว
นายจิรายุ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ กองทัพบกและกระทรวงการต่างประเทศได้นำคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) ประจำกรุงเทพฯ เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา จำนวน 18 นาย ณ สถานที่ควบคุมตัวในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 โดยกองทัพบกเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ ICRC เข้าพบและพูดคุยกับเชลยศึกอย่างอิสระ พร้อมทั้งจัดให้มีการตรวจสุขภาพ ซึ่งทุกนายมีสุขภาพแข็งแรง โดยการดำเนินการในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเคารพและยึดมั่นของไทยในการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ในวันนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยจะจัดพิธี “สดุดีวีรชนทหารกล้า – อาลัยประชาชนผู้บริสุทธิ์” เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ และตอบแทนความเสียสละของกำลังพล 15 นาย ที่พลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตย และร่วมไว้อาลัยต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยจะมีการวางพวงมาลา ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พิธีบำเพ็ญกุศล ณ กองบัญชาการกองทัพไทย และช่วงเย็นจะจัดพิธีสวดมนต์ ณ สโมสรกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่วีรบุรุษทหารกล้า และประชาชนผู้บริสุทธิ์
“รัฐบาลขอย้ำว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทยไม่ให้ใครมารุกล้ำได้ พร้อมทั้งดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการเยียวยา การดำเนินการซ่อมแซมบ้านเรือนและสถานที่สำคัญที่ได้รับความเสียหายจากการปะทะ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด” นายจิรายุ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย