ทำเนียบฯ 26 ม.ค.-รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย พร้อมหารือความร่วมมือด้านต่าง ๆ ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวที่จะเพิ่มพูนขึ้นในอนาคตระหว่างไทยและศรีลังกา
นางกเษณุกา ธิเรนี เสเนวิรัตนะ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ และแสดงความยินดีกับ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารับตำแหน่ง
หลังการหารือ นายกอบศักดิ์ เปิดเผยว่า เป็นการหารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยวันนี้ได้มีการหารือถึงเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน ที่พยายามจะดำเนินการให้ได้ภายในปีนี้ คือ เรื่องการทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ขณะที่ศรีลังกาต้องการให้ไทยเข้าไปลงทุนในศรีลังกามากขึ้น โดยขณะนี้นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ได้ตกลงร่วมกับศรีลังกา ในการสร้างนิคมอุตสาหกรรม มีพื้นที่ 400-500 เอเคอร์ อยู่ห่างจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา 50 กิโลเมตร ในอนาคตจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญของไทยในศรีลังกา และในอนาคตจะหารือกับนักลงทุนไทยให้เข้าไปลงทุน และสร้างนิคมอุตสาหกรรมในศรีลังกามากขึ้น ซึ่งศรีลังกาได้ให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทปูนซิเมนต์ไทยเข้าไปลงทุนในศรีลังกา ทำให้มูลค่าการค้าการส่งออกของศรีลังกาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ไทยกำลังดำเนินการลดอุปสรรคของนักธุรกิจศรีลังกาในประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องวีซ่า ที่ต้องใช้กระบวนการพอสมควร โดยไทยกำลังมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสู่การทำวีซ่าออนไลน์ หากทำได้จริง จะเป็นการช่วยเหลือประชาชนและนักธุรกิจศรีลังกาได้มากขึ้น จะช่วยเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอีกด้วย” นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ศรีลังกากำลังอยู่ในกระบวนการพัฒนาประเทศที่สำคัญ ซึ่งศรีลังกาสามารถเรียนรู้จากประเทศไทย และทำงานร่วมกันได้ โดยเฉพาะการพัฒนาจากฐานราก ทั้งโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เช่น การทำธนาคารชุมชนเพื่อเพิ่มการออมให้กับประชาชน และในโอกาสนี้ได้เชิญ เอกอัครราชทูตศรีลังกา ลงพื้นที่กรุงเทพฯ จังหวัดนนทบุรี และใกล้เคียง ซึ่งจะทำให้ศรีลังกาเปลี่ยนแปลงชีวิตของประชาชนได้อย่างแท้จริง รวมถึงโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและฝนหลวง ศรีลังกาก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับไทยในการพัฒนาจากฐานราก
“สำหรับนักธุรกิจของไทยที่เข้าไปลงทุนในศรีลังกา ส่วนใหญ่จะเป็นภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ยังไม่มีอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ รถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ศรีลังกาต้องการให้เข้าไปลงทุน ซึ่งเป็นโอกาสดีของไทยที่จะใช้ศรีลังกาเป็นพื้นฐานการส่งออกที่สำคัญ เพราะสามารถส่งไปยังอินเดีย และบังกลาเทศ ที่มี FTA กับศรีลังกาได้ด้วย ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะศรีลังกามีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาที่น่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นพระเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี้ และต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตอนที่ 2 ที่ถูกส่งมาจากประเทศอินเดียตั้งแต่สมัยพุทธกาล นอกจากนี้ทางศรีลังกาต้องการให้ไทยช่วยเรื่องของสินค้าโอท็อป ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญ โดยต้องการให้ไทยส่งผู้เชี่ยวชาญไปอบรม ให้ความรู้กับประชาชนศรีลังกาในเรื่องนี้ด้วย” นายกอบศักดิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย