นายกฯ ร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 2

กัมพูชา 10 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 2 ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยทั้ง 6 ประเทศเห็นพ้องเดินหน้าแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปี ที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ลุ่มน้ำโขงร่วมกัน และแก้ปัญหาความยากจน เพื่อพัฒนาไปสู่ความยั่งยืนของอนุภูมิภาค โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย รายงาน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ครั้งที่ 2 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งครั้งนี้ จีนและกัมพูชาเป็นประธานร่วมกัน ภายใต้หัวข้อ “แม่น้ำสันติภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืนของเรา” โดยมีประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ประกอบด้วย จีน กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม สำหรับประเด็นหลักในการหารือครั้งนี้คือ การกำหนดทิศทางและกรอบความร่วมมือ เพื่อร่วมยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง บนพื้นฐานความเท่าเทียม


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม ย้ำถึงความท้าทายในอนาคตที่ต้องส่งเสริมให้อนุภูมิภาคนี้ มีความทันสมัยให้ความสำคัญกับนวัตกรรม โดยเฉพาะภาคการเกษตร พร้อมส่งเสริมความเชื่อมโยงนโยบาย 1 แถบ 1 เส้นทาง ที่มุ่งให้อนุภูมิภาคนี้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของไทย อาทิ นโยบายประเทศไทย 4.0 ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และประเทศไทย+1 รวมทั้งการยกระดับความร่วมมือด้านน้ำ เพื่อให้เกิดความพัฒนาด้านการเกษตรอย่างยั่งยืน และสอดรับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ปี 2573 อย่างเป็นรูปธรรม


จากนั้นผู้นำทั้ง 6 ประเทศ ได้รับรองเอกสารผลลัพธ์ 2 ฉบับ คือ แผนปฏิบัติการระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2561-2565 ใน 5 สาขา ทั้งความเชื่อมโยงเศรษฐกิจข้ามพรมแดน การใช้ทรัพยากรน้ำร่วมกัน การพัฒนาศักยภาพการผลิต การทำเกษตรรูปแบบใหม่ และการลดความยากจน ส่วนอีกฉบับเกี่ยวข้องกับปฏิญญาพนมเปญ ซึ่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำที่จะมุ่งสนับสนุนกรอบความร่วมมือให้บรรลุเป้าหมาย

ในระหว่างการประชุม นายกรัฐมนตรีได้หารือทวิภาคีกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งได้เห็นพร้องความร่วมมือของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาเส้นทางรถไฟจากชายแดนไทย-กัมพูชา ไปยังกรุงพนมเปญ ภายในปี 2563 และขยายการเชื่อมโยงจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน จังหวัดสระแก้ว ถึงสตึงบท จังหวัดบันเตียเมียนเจย

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ส่งมอบตำแหน่งประธานร่วมให้กับ สปป.ลาว ในการจัดประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือ MLC ครั้งต่อไป. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย