ตร.ชี้ ภาพหญิงถ่ายคู่”ยิ่งลักษณ์”ในอังกฤษของจริง เร่งสืบหาพิกัด

กทม.5 ม.ค.-“ศรีวราห์’ ชี้ ภาพคู่”ยิ่งลักษณ์”ในอังกฤษของจริง เร่งประสานตำรวจสากล เช็คพิกัด  ไม่ยืนยันยู่อังกฤษ สั่ง ตม.เช็คข้อมูล”น้องไปป์”ลูกชาย บิน-หญิงไทยถ่ายคู่ ยังมีหวังได้ตัวดำเนินคดี


 

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.กล่าวกรณีปรากฏภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯถ่ายภาพคู่หญิงไทยที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ลักษณะของอาคารด้านหลังคล้ายกับห้างแฮร์รอดส์ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของกรุงลอนดอน หลังจากก่อนหน้านี้ ปรากฏภาพเดินชอปปิ้งในห้างสรรพสินค้าในกรุงลอนดอนว่า ได้สั่งให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และกองการต่างประเทศตรวจสอบแล้ว  ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกฯและรองนายกฯก็สั่งให้ตรวจสอบ โดยเฉพาะพล.อ.ประวิตร สั่งการให้สืบสวนจับกุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ได้ ยืนยันว่าไม่นิ่งนอนใจ ล่าสุดก่อนสิ้นปี 2560  กองการต่างประเทศได้สอบถามถิ่นพำนักน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปยังตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพลแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ 


รองผบ.ตร.ยอมรับว่า การติดตามตัวยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม แต่ล่าสุดเมื่อพฤศจิกายน ตำรวจสากลของสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์หรือยูเออี ตอบว่า พบข้อมูลน.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางออกจากยูเออีโดยแจ้งปลายทางไปยังสหราชอาณาจักรหรืออังกฤษ แต่ยังไม่มีคำยืนยันจากตำรวจสากลในอังกฤษ ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไป หรือพักในอังกฤษหรือไม่ ในการสอบถามผ่านช่องทางตำรวจสากล ได้ถามถึงประเด็นการขอลี้ภัยทางการเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ยังไม่มีข้อมูลตอบกลับมาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตำรวจสากลให้ความร่วมมือกับทางการไทยเป็นอย่างดี  โดยจะไปเร่งรัดเขาไม่ได้ กรณีมีข่าวว่า นายศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปหามารดาที่อังกฤษช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ก็สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบแล้ว รวมถึงหญิงไทยที่ถ่ายภาพคู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ตรวจสอบว่าเป็นใครเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่การที่หญิงไทยคนนี้  หรือใครก็ตามที่พบตัว หรือถ่ายภาพกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในต่างประเทศถือว่าไม่มีความผิด เพราะเป็นการทำนอกราชอาณาจักร กฎหมายไทยไปเอาผิดไม่ได้

         พล.ต.อ.ศรีวราห์ ย้ำว่า ตำรวจติดตามตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตลอด เพื่อคุมตัวมารับโทษตามคำตัดสินของศาล และได้สอบถามไปยังคนใกล้ชิด หรืออดีตผู้ติดตามตลอด ก็ไม่มีข่าวคราว ไม่มีใครยืนยันว่าอยู่ที่ไหน เมื่อปรากฏภาพออกมา 2 ภาพ และภาพล่าสุดที่เป็นภาพถ่ายคู่ค่อนข้างยืนยันได้ว่าเป็นภาพจริง กองพิสูจน์หลักฐานชี้ว่า มีความเป็นไปได้สูงมากว่าไม่ใช่ภาพตัดต่อ ก็ต้องสอบถามไปยังประเทศอังกฤษอีกครั้งเกี่ยวกับการพบตัวอดีตนายกฯ มองการปรากฏภาพน.ส.ยิ่งลักษณ์ บ่อยครั้งในช่วงนี้ไม่มีนัยยะใด และไม่เป็นการท้าทายการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ ที่สุดแล้วจะได้ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ มารับโทษหรือไม่ ตอบไม่ได้ แต่ยังมีหวัง เพราะตำรวจทำงานเต็มที่  อย่างไรก็ตาม ไม่พบข้อมูลการใช้หนังสือเดินทางของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเพิกถอนหมดแล้ว ส่วนตอนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใดยังไม่ทราบ

ด้านพล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพิ่มเติมว่า ภาพถ่ายคู่ เป็นไปได้สูงว่าไม่ใช่ภาพตัดต่อ แต่ภาพหญิงสาวเหมือนน.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินชอปปิ้งไม่สามารถชี้ได้ว่าเป็นภาพจริงหรือตัดต่อเพราะความละเอียดของภาพไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามไม่สามารถบอกได้ว่าภาพทั้ง 2 ถ่ายเมื่อใด ภาพเก่าหรือภาพใหม่ เนื่องจากไม่มีภาพต้นฉบับ ตำรวจได้มาเพียงภาพที่ส่งต่อๆกันมาเท่านั้น


ขณะที่ พ.ต.อ.สุระพันธ์  ไทยประเสริฐ รอง ผบก.กองการต่างประเทศ เสริมว่า ก่อนสิ้นปี 2560 ได้ส่งอีเมล์สอบถามไปยังตำรวจสากลอังกฤษ และสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ตามระเบียบขั้นตอนเพื่อให้ตรวจสอบการเดินทางเข้า หรือออกประเทศอังกฤษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ไม่ใช่เพราะทางอังกฤษไม่ให้ความร่วมมือ แต่เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นบุคคลสำคัญ ที่ทางการไทยต้องการตัว การตรวจสอบของอังกฤษต้องชัดเจน แม่นยำ จึงจะตอบกลับมาที่ไทยได้ ทำให้ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ในอังกฤษหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน ตำรวจสากลในยูเออี แจ้งว่าพบข้อมูลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากยูเออีไปอังกฤษ ต่อมาตำรวจสากลไทยสอบถามไปทางยูเออีอีกครั้งเพื่อขอข้อมูลรายละเอียดการเดินทาง โดยเฉพาะสายการบิน เที่ยวบิน แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]