ผบ.เรือนจำธัญบุรี งงกรณีครอบครัวนักโทษชายร้อง ยธ.

สำนักข่าวไทย 22 ธ.ค.–ผบ.เรือนจำธัญบุรี เผย ‘นช.เอ’ ยอมรับแล้วทำร้าย ร่างกาย นช.คู่กรณีก่อน  งงครอบครัวให้ข่าวสื่อ สัปดาห์หน้าทราบผลสอบ ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย


นายเกียรติกร  ปัทมทัตต์  ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอธัญบุรี  เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ถึงความคืบหน้ากรณีวานนี้ (21 ธ.ค.)มีญาติ นช.กฤตติกร หรือ นช.เอ อายุ 34 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม(ยธ.)เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีผู้คุมเรือนจำอำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทำร้ายร่างกาย นช.กฤตติกร หรือ นช.เอ จน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่า ล่าสุดผลการสอบปากคำนช.กฤตติกร เมื่อวันที่ 20ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ 1วัน นช.กฤตติกร กับพวกให้การยอมรับ และเซ็นเอกสารสารภาพว่าได้เข้าไปทำร้ายนักโทษก่อนจริง และ นช.กฤตติกร ก็ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บสาหัส จนหายใจไม่ออกและต้องให้เพื่อนพยุงตัวออกมาพบญาติ อย่างที่ภรรยา และแม่ของ นช.กฤตติกร ไปแจ้งที่กระทรวงยุติธรรม เพราะหลังเกิดเหตุก็เดินออกมาพบภรรยาด้วยตัวเอง  


“ส่วนตัวไม่เข้าใจว่า เหตุใดทางครอบครัวจึงไปให้ข่าวแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะโกรธ หรือความรักที่มีจึงทำให้พูดไปแบบนั้น ซึ่งตนเองก็เข้าใจ แต่ก่อนจะโกรธอยากให้ได้รู้ถึงต้นสายปลายเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น มองว่าเป็นเรื่องดีที่ทุกคนให้ความสนใจจะได้ฟังความสองข้าง และตัดสินจากพยานหลักฐาน” ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอธัญบุรี กล่าว


นายเกียรติกร  กล่าวอีกว่า เช้าวันนี้ภรรยา นช.กฤตติกร ก็เดินทางมาเยี่ยมตามปกติ แต่ไม่ได้มีการติดต่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว รวมถึงติดต่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุแต่อย่างใดซึ่งหากประสานมาก็พร้อมจะให้มาดูว่าเป็นไปตามที่ให้ข่าวกับสื่อหรือไม่ ยืนยันว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว โดยทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ย้ำให้เสร็จ และส่งสรุปภายใน 3 วันคาดว่าสัปดาห์หน้าจะทราบผลได้ หากฝ่ายไหนผิดก็จะโดนลงโทษ หากเจ้าหน้าที่ผิดก็จะโทษทางวินัย 

ส่วนหากนักโทษผิดก็จะโดนลงโทษ ซึ่งโทษก็จะมีตั้งแต่ปรับลดขั้น จากนักโทษชั้นดี กลับไปชั้นเลว และห้ามญาติเยี่ยมเป็นเวลา 1 ปี ส่วนการย้ายเรือนจำไม่อยู่ในโทษครั้งนี้ หากมีการย้ายต้องมาจากปัจจัยอื่น แต่ทั้งหมดคงยังไม่ขอพูดถึง รอผลสอบออกมาอย่างเป็นทางการจึงจะระบุได้ชัดเจนอีกครั้ง 

สำหรับพฤติกรรมของ นช.กฤตติกร ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในเรือนจำแล้วพบว่า นช.กฤตติกร มีพฤติกรรมเป็นหัวโจก ตั้งกลุ่ม บ้านรังสิต ในเรือนจำแดน 2 โดยสมาชิกในกลุ่มมีปัญหาเรื่องการยืมของกินและของใช้ แต่ฝ่ายที่ยืมไม่ยอมใช้คืน ดังนั้น นช.กฤตติกร จึงรวมกลุ่มไปทวงถามเงินให้ และเมื่อไม่มีให้จึงเข้าไปล็อคคอคู่กรณี ก่อนจะนำตัวไปให้สมาชิกอีกหลายสิบคนรุมทำร้ายร่างกายนักโทษคนดังกล่าว และผู้คุมเรือนจำเห็นจึงเข้าไประงับเหตุทะเลาะวิวาทตามอำนาจหน้าที่  

ทั้งนี้ นช.กฤตติกร เคยมีประวัติต้องโทษที่เรือนจำอำเภอธัญบุรี ในข้อหาพยายามฆ่ามาแล้วเมื่อปี 2552 และถูกปล่อยตัวเมื่อปี 2555 ก่อนจะมาถูกคุมขังอีกครั้งเมื่อปี 2558 ใน 3 ข้อหา คือ ผิดพ.ร.บ.อาวุธปืน และพยายามฆ่า 2 คดี  ซึ่ง นช.กฤตติกร เป็น1 ในรายชื่อที่ทางเรือนจำเฝ้าระวังพฤติกรรม เนื่องจากปี 2558 ที่เข้ามาเรือนจำในแดนแรกรับ มีพฤติการณ์ พยายามข่มขู่ และใช้อาวุธมีดแทงผู้ต้องขังคนอื่น จนต้องย้ายมาอยู่แดน 2 ที่มีความเข้มงวดกฏระเบียบมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว