ธปท.ย้ำลงทุนบิทคอยน์เสี่ยงสูง-ประสานปปง.ป้องกันฟอกเงิน

กรุงเทพฯ 16 ธ.ค. – ธปท. ออกโรงเตือนบิทคอยน์ไม่ใช่สกุลเงินชำระหนี้ตามกฎหมาย  พร้อมประสาน ปปง.ร่วมกำกับดูแลสกัดใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน 


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) กล่าวว่า เงินสกุลดิจิทัล  และ บิทคอยน์ ไม่ใช่เงินที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่เป็นสกุลเงินดิจิทัลสำหรับการลงทุนคล้ายกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ และน้ำมัน ดังนั้น ประชาชนที่จะลงทุนต้องระมัดระวังให้ดี เพราะถือว่ามีความเสี่ยงสูง ราคามีความผันผวนอย่างมากและธนาคารกลางทั่วโลกยังไม่มีการรับรองว่าเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายรวมทั้งประเทศไทย

และยังพบว่าความเสี่ยงระบบศูนย์กลางซื้อขายสกุลเงินบิทคอยน์ถูกแฮกหรือปิดกิจการไป ทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียได้ และที่น่ากังวลใจมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจในเรื่องนี้และถูกชักชวนให้ลงทุนเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ โดยอ้างว่าเป็นการลงทุนในตราสารการเงินใหม่ๆที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งประชาชนต้องระมัดระวังและสามารถตรวจสอบได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน หมายเลข 1213 


นายวิรไท กล่าวด้วยว่า เรื่องของการกำกับดูแลเงินสกุลดิจิทัล จะต้องมีการประสานกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. โดยต้องกำกับดูแล 2 ส่วน คือ 1 .ต้องคุ้มครองผู้บริโภค 2.ต้องป้องกันไม่ให้ใช้สกุลเงินดิจิทัล เป็นช่องทางในการฟอกเงินที่ผิดกฎหมาย 

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามของธปท.ยังไม่พบว่าสกุลเงินดิจิทัลมีการใช้อย่างแพร่หลายจนน่ากังวลในประเทศไทย เพราะธุรกรรมไม่ได้มากจนกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ


“ยอมรับว่าบางประเทศมีการทดลองใช้สกุลเงินดิจิทัล แต่เพื่อเป็นนวัตกรรมการลงทุนในรูแบบใหม่ๆ เข่นญี่ปุ่น แต่ไม่ใช่เป็นเงินที่้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เพราะยังมีความผันผวนสูงไม่สามารถกำหนดราคาคงที่ได้”นายวิรไท กล่าว

ส่วนแนวคิดของกระทรวงการคลังที่ส่งเสริมให้สถาบันการเงินมีการควบรวมกิจการเพื่อเสริมความแข็งแกร่งนั้น นายวิรไท กล่าวว่า การควบรวมกิจการก็ช่วยทำให้ธนาคารพาณิชย์มีขนาดที่ใหญ่ มีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่นโยบายของแต่ละธนาคารว่าจะมีนโยบายในการควบรวมอย่างไร ซึ่งถ้าหากมีการควบรวมก็จะเป็นประโยชน์ที่จะทำให้แบงก์ไทยใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาค จะทำให้แบงก์ไทยมีความสามารถในการปล่อยสินเชื่อให้กับเอกชนขนาดใหญ่เพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น