ธปท.จัดกลุ่มบัญชี S M L จำกัดเงินโอนเริ่มต้นไม่เกิน 5 หมื่นบาท/วัน ป้องกันบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 19 ส.ค. – ธปท.เปิดข้อมูลไตรมาส 2/68 เหยื่อถูกหลอกโอนเงินเกือบ 6 พันล้านบาท ปิดบัญชีม้า 2.8 ล้านบัญชี ชี้เหยื่อรู้ตัวช้า จับมือสมาคมธนาคารไทย ยกระดับป้องกัน จัดกลุ่มบัญชี S M L จำกัดเงินโอนเริ่มต้นไม่เกิน 5 หมื่นบาท/วัน ลูกค้าใหม่เริ่มใช้ภายใน ส.ค.นี้ ลูกค้าเดิมภายในสิ้นปี 68 ย้ำต้องไม่กระทบลูกค้าดี


นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการจัดการภัยทุจริตทางการเงินว่า ตามที่ภาครัฐได้มีการตราพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มเติมมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งกำหนดให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยระบบการชำระเงิน ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

โดยข้อมูลไตรมาส 2 ปี 68 พบว่า การถูกหลอกจากเคสแอปดูดเงิน ลดลงเหลือ 0 เคส แต่ยังเกิดเหตุจำนวนมากที่เหยื่อถูกหลอกให้โอนเงิน มูลค่าความเสียหาย 5,651 ล้านบาท แม้จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 8,590 ล้านบาท สามารถระงับบัญชีม้าได้ 2.8 ล้านบัญชี ระงับรายชื่อม้า 1.97 แสนรายชื่อ


ขณะที่เดือนมิถุนายน 68 จำนวน 24,500 เคส มูลค่าความเสียหายรวม 2,800 ล้านบาท เฉลี่ย 114,000 บาทต่อเคส ยอดโอนสุดสุด 4.9 ล้านบาทต่อครั้ง โดยกลการหลอกยังเป็นการหลอกให้ลงทุน หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล ขู่ให้กลัว และหลอกให้โอนเงิน สิ่งที่ ธปท. กังวลคือ มิจฉาชีพสามารถโอนเงินได้ครั้งละจำนวนมาก รวมถ่ายโอนเงินได้รวดเร็ว ภายใน 3 นาที สามารถโอนเงินออก 50% ของมูลค่าความเสียหาย ในทางกลับกันเหยื่อยังไม่รู้ตัวในทันที แต่จะรู้ตัวภายใน 19-25 ชั่วโมง จึงจะแจ้งข้อมูลเข้าระบบ แม้ธนาคารจะแจ้งเตือนแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ดี ธปท. จึงร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทยยกระดับมาตรการเชิงป้องกัน โดยกำหนดวงเงินการโอนและชำระเงินต่อวันผ่านช่องทางดิจิทัลของลูกค้าบุคคลธรรมดาให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการทำธุรกรรมของลูกค้า เพื่อให้ธนาคารดำเนินการเชิงรุกการป้องกันและจำกัดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนที่ถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้านนางอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายหลัก คือ 1. จำกัดไม่ให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ครั้งละจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดได้เร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะกักเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทัน และ 2.จำกัดความเสียหายของประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพ โดยธนาคารจะพิจารณากำหนดวงเงินการโอนและชำระเงินต่อวันให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและพฤติกรรมการทำธุรกรรมในอดีตของลูกค้า ทั้งข้อมูลลูกค้า ลักษณะต้องสงสัยที่จะเป็นวิชาชีพ เงินเข้า-ออกบัญชี ประวัติการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ และสินทรัพย์ เป็นต้น


โดยบัญชีต้องสงสัยที่อาจเป็นบัญชีม้า จะถูกกำหนดอยู่ไซส์ S วงเงินการโอนไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน ส่วนลูกค้าทั่วไปที่ธนาคารรู้จักดีจะถูกปรับสู่ไซส์ M วงเงินการโอนไม่เกิน 200,000 บาทต่อวัน และลูกค้าไซส์ L วงเงินการโอนมากกว่า 200,000 บาทต่อวัน ขณะที่ลูกค้าในกลุ่มเปราะบาง จะถูกจัดกลุ่มในไซส์ S เพื่อดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากการถูกของหลอกมิจฉาชีพมากเกินไป และจะมีกระบวนการเตือนจากธนาคารหากมีพฤติกรรมการโอนเงินผิดปกติ รวมทั้งจะมีการเตือนการจัดกลุ่มลูกค้าผ่านช่องทางการแจ้งเตือนของธนาคารที่ใช้บริการ

ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการดังกล่าวจะครอบคลุมลูกค้าประเภทบุคคลธรรมดาของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ แต่จะไม่ครอบคลุมลูกค้ากลุ่มสหกรณ์

อย่างไรก็ตาม ธนาคารต้องมีแนวทางลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อลูกค้าด้วย เช่น มีกระบวนการรองรับกรณีลูกค้ามีความจำเป็นฉุกเฉินต้องโอนเงินหรือชำระเงินสูงกว่าวงเงินต่อวันที่โอนได้ โดยให้ธนาคารดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวกับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดใช้บริการ mobile banking หรือ internet banking ก่อนภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 และหลังจากนั้นจะดำเนินการกลุ่มลูกค้าปัจจุบันภายในสิ้นปี 2568 พร้อมกำชับว่าต้องไม่กระทบต่อกลุ่มลูกค้าดีมากจนเกินไป.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย

“หลวงพ่ออลงกต” ลาออกเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุแล้ว

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. พระธรรมวชิรสุนทร เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เรื่อง ให้พระสังฆาธิการลาออกจากตำแหน่ง ด้วย พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นั้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 37 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2551) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่2) พ.ศ.2535 จึงอนุญาตให้พระราชวิสุทธิประชานาถ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 19 ส.ค.2568.-สำนักข่าวไทย

ทอ.โชว์ความพร้อมของเครื่องบินโจมตี แอลฟาเจ็ต

กทม. 19 ส.ค.-ทอ.โชว์ความพร้อมของเครื่องบินโจมตี แอลฟาเจ็ต (Alpha Jet TH) หรือที่รู้จักกันในนาม “Hunter” “นักล่า ผู้พิฆาตไพรี” พร้อมเสิร์ฟไข่เบอร์ศูนย์ให้กับผู้รุกรานประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจกองทัพอากาศไทย ได้โพสต์ข้อความพร้อมปฏิบัติการของเครื่องบินโจมตีแอลฟาเจ็ต (Alpha Jet TH) ฝูงบิน 231 กองบิน 23 ระบุว่า พร้อมปฏิบัติการด้วยจิตใจที่ห้าวหาญของนักรบทางอากาศ และศักยภาพของเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 (Alpha Jet TH) ที่ได้รับการปรับปรุงขีดความ ให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยสามารถใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายภาคพื้นได้อย่างแม่นยำ เพื่อดำรงให้กองทัพอากาศไทย มีความพร้อมในการรับมือต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคง ในการพิทักษ์รักษาอธิปไตย ผลประโยชน์แห่งชาติ และปกป้องพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยจากการรุกรานของข้าศึกศัตรู ดังคำกล่าวที่ว่า “น่านฟ้าไทย จะไม่ให้ใครย่ำยี”.-313.-สำนักข่าวไทย