รวบแล้ว “ท็อป ฮาวดี้” ไลฟ์สดเผาบ้านทวงหนี้

บุรีรัมย์ 13 ธ.ค.-รวบแล้ว! ‘ท็อป ฮาวดี้’ ไลฟ์เผาบ้านทวงหนี้ หนีกบดานบ้านแฟน อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์


ความคืบหน้ากรณีที่ นายอาทิตย์ จักรคุ้ม หรือฉายาท็อป ฮาวดี้ หนุ่มชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อว่า “ท็อป ฮาวดี้” โดยในคลิปเป็นภาพที่นายอาทิตย์ เดินเข้าไปด้านหลังของบ้านหลังหนึ่ง พร้อมด้วยขวดบรรจุน้ำมัน แล้วใช้ถ้อยคำหยาบคายและรุนแรง ลักษณะต่อว่าคนในบ้านว่ายืมเงินแล้วไม่ใช้คืนต้องเจอเผาบ้านแบบนี้ ก่อนจะลงมือเทน้ำมันราดและจุดไฟเผาบ้านบริเวณฝาบ้านจนได้รับความเสียหาย โดยเหตุเกิดเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา


ส่วนบ้านของผู้เสียหายคือบ้านของนายหัส โพธิ์เงิน ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.แคนดง ให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุจนถึงที่สุดแล้ว โดยชนวนเหตุเกิดจากลูกชายเจ้าของบ้านยืมเงินแล้วไม่ใช้หนี้คืนตามสัญญา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสอบภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับชุดสืบ สภ.แคนดง ท้องที่เกิดเหตุ ได้นำหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าทำการจับกุมตัวนายอาทิตย์ หรือท็อป ฮาวดี้ ได้แล้ว ขณะหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเช่าของแฟนสาวที่เพิ่งคบหากันได้ 1 ปี ในท้องที่ อ.สตึก และนำหมายศาลจับกุมผู้ถ่ายคลิปในวันไลฟ์สดได้ที่บริเวณป่ายางใน อ.แคนดง เช่นกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งสองมาสอบปากคำเครียดที่ สภ.แคนดง ท้องที่เกิดเหตุ

จากการความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ “ท็อป ฮาวดี้” พบว่าก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ประมาณ 1 ชั่วโมง นายอาทิตย์ ได้มีการโพสต์เฟซข้อความล่าสุดว่า “ครับแค่เมาแหย่เพื่อนมันเล่น…เดวเจอกันก้หัวเราะเยาะกันเหมือนเดิมผมโตด้วยกันมา…หาไรทำบ้าๆบอๆ ตามประสาขี้เหล้าชาวทุ่งพี่…สังคมก้คิดไปไกลผมแกล้งบ้ากันเฉยๆ#คนจะเผาเขาไม่โชว์โงหลอกพี่…เผาจริงป่านนี้เสาบ้านมันเป็นถ่านแล้ว”


จากการสอบถามนายอาทิตย์ หรือ “ท็อป ฮาวดี้” ถึงชนวนเหตุที่ไปจุดไฟเผาบ้านและไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กว่า  เพียงต้องการข่มขู่ให้นายทัน ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้านหวาดกลัว เพื่อจะได้นำเงินที่ยืมไปล่าสุดเมื่อ 3 เดือนก่อนจำนวน 10,000 บาทมาคืนให้เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะเผาทำให้เสียหาย หากตั้งใจจะเผาจริงคงไหม้หมดทั้งหลังแล้ว และนายทัน เองก็เคยเรียนด้วยกันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เงินที่นายทัน ยืมไปก็ไม่ได้คิดดอกเบี้ยเลย แต่เมื่อยืมแล้วไม่ยอมนำเงินมาคืนตามที่สัญญากันไว้ว่าจะคืนภายใน 3 เดือน แต่ผ่านไปถึง 4 เดือนแล้วก็ไม่ยอมคืน และก็ไม่เคยติดต่อกลับด้วย จึงเกิดความโมโหประกอบกับวันก่อเหตุก็เมาด้วย    แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าขณะที่จุดไฟเผาไม่มีใครอยู่ในบ้าน  

ส่วนที่โพสต์ในเฟซว่านายทัน เป็นหนี้ 100,000 บาท นั้น จริงแล้วเป็นยอดที่ยืมสะสมมาต่อเนื่อง ส่วนที่อ้างว่าบ้านก็ตกเป็นของตนเองตามสัญญาแล้วนั้น นายอาทิตย์ ก็อ้างว่ามีการทำสัญญากันไว้จริง และบ้านหลังดังกล่าว พ่อแม่ของตนเองก็ให้เงินมาซื้ออุปกรณ์ แต่ก็ไม่เคยทวงคืน แต่ก็ยอมรับว่าภาพที่ปรากฏออกไปอาจจะดูรุนแรง จึงอยากฝากขอโทษสังคมที่กระทำตัวอย่างที่ไม่ดี หากย้อนกลับไปได้ก็คงไม่คิดทำ เพราะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ทั้งอยากขอให้สังคมเห็นใจเพราะเงินที่นายทัน ยืมไปและตนเองไปทวงคืนก็เพื่อจะนำมาเลี้ยงลูก 2 คน วัย 2 ขวบกับ 8 ขวบ และตนเองกับนายทัน ก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก เวลาที่นายทัน เดือดร้อนตนเองก็ช่วยเหลือตลอด แต่เวลาที่ตัวเองจำเป็นไปทวงเงินคืนกลับหนีหายไม่ติดต่อกลับเลย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า