ตร.บุรีรัมย์จ่อออกหมายจับหนุ่มไลฟ์วางเพลิงเผาบ้านลูกหนี้

บุรีรัมย์ 12 ธ.ค.-ตำรวจ สภ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ แจ้งข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์” หนุ่มไลฟ์วางเพลิงเผาบ้านลูกหนี้ผ่านเฟซบุ๊ก โทษสูงสุดจำคุกถึง 20 ปี ด้านผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดถึงที่สุด


(12 ธ.ค.60) จากเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก โดยในคลิปชายคนดังกล่าวได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายและรุนแรง ลักษณะต่อว่าเจ้าของบ้านก่อนจะลงมือเทน้ำมันราดและจุดไฟเผาบ้านหลังดังกล่าวตอนกลางวันแสกๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งนี้ในคลิปชายที่จุดไฟเผา ยังระบุว่าเป็นบ้านลูกหนี้ที่ไม่ใช้หนี้คืน จากนั้นก็ลงมือราดน้ำมันและจุดไฟไปที่ผนังบ้านที่เป็นไม้ ทั้งยังพูดขู่ในคลิปด้วยว่า ไม่ใช้หนี้ ก็จะโดนเผาบ้านแบบนี้ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และแชร์ต่อกันในโลกโซเชียล


และเมื่อตรวจสอบก็พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในท้องที่ อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00-17.00 น. ของวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังสถานีตำรวจ สภ.แคนดง ท้องที่เกิดเหตุ ก็ทราบว่าได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน มาแจ้งไว้ที่ สภ.แคนดง ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายอาทิตย์ จักรคุ้ม หรือฉายา ท๊อป ฮาวดี ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 234 ม.13 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งประวัติเคยต้องโทษคดียาเสพติดด้วย

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าบริเวณฝาบ้านมีร่องรอยถูกไฟไหม้เสียหายบางส่วน เนื่องจากวันเกิดเหตุโชคดีที่มีชาวบ้านใกล้เคียงเห็นเปลวไฟจึงมาช่วยกันดับไฟไว้ได้ทัน  ทั้งยังจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย แต่ไม่พบเจ้าของบ้านเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.แคนดง พบเพียงนางเมง ชวนรัมย์ อายุ 55 ปี ชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟในวันเกิดเหตุ บอกว่า   หลังเห็นไฟไหม้ก็รีบเข้ามาช่วยแต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พึ่งมาทราบภายหลังเมื่อมีเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำพยานแวดล้อม รวมถึงเห็นคลิปที่ปรากฏในข่าว แต่ก็ไม่ทราบว่าเจ้าของบ้านหรือลูกชายเจ้าของบ้านมีปัญหาอะไรกับใคร ถึงถูกเผาบ้านแบบนี้


จากนั้นจึงได้เดินทางไปยัง สภ.แคนดง ก็พบเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำนายหัส โพธิ์เงิน เจ้าของบ้านที่ถูกจุดไฟเผา จึงได้สอบถามสาเหตุที่เกิดเหตุ ซึ่งนายหัส บอกว่า อาจจะเกิดจากสาเหตุที่ลูกชายของตนเองไปยืมเงินนายอาทิตย์ ผู้ก่อเหตุเป็นเงิน 10,000 บาท โดยที่ลูกชายก็เป็นเพื่อนกับนายอาทิตย์ ผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ทราบว่าลูกชายนำเงินไปทำอะไร แต่พอทราบมาว่าลูกชายรับปากว่าจะไปรับจ้างกรีดยางให้นายอาทิตย์ เพื่อเป็นการล้างหนี้ เหมือนเป็นการจ่ายค่าแรงล่วงหน้า หลังจากนั้นไม่รู้ว่าลูกชายได้ไปกรีดยางให้นายอาทิตย์ หรือไม่ จนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้แจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการก่อเหตุอุกอาจตอนกลางวันแสกๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ด้าน พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผกก.สภ.แคนดง ระบุว่า ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความแล้วและได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนพยานแวดล้อมและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีด้วย พร้อมได้ติดตามประสานให้นายอาทิตย์ ผู้ก่อเหตุเข้ามามอบตัว แต่นายอาทิตย์ยังหลบหนีไม่มอบตัว ก็จะเร่งรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับอย่างเร่งด่วน เพราะถือเป็นการกระทำที่อุกอาจท้าทายกฎหมาย เพราะขณะก่อเหตุมีการไลฟ์สดโชว์ในโซเชียลด้วย ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อหากล่าวหา นายอาทิตย์ ฐาน “วางเพลิงเผาทรัพย์” มีโทษสูงสุดจำคุก 5 -20 ปี”

ซึ่งคาดว่านายอาทิตย์ ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ไม่ได้หลบหนีไปไหนไกล และเชื่อว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นคดีร้ายแรง และไม่อยากให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ ซึ่งอยากฝากเตือนผู้ที่นิยมไลฟ์สด หรือแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่ส่อไปในทางรุนแรงทางโลกโซเชียลในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เสี่ยงผิดกฎหมาย ให้คิดและไตร่ตรองดีๆ เสียก่อน เพราะผลที่ตามมาอาจรุนแรงจนนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย

“สุชาติ” ย้ำวัดห้ามถือครองเงินเกิน 1 แสน เร่งแก้ กม.เอาผิดเสพเมถุน

ทำเนียบรัฐบาล 15 ก.ค.- “สุชาติ” ขอคุยรัฐบาลเร่งแก้ กม.เอาผิดเสพเมถุนในวัด โทษคุก 7 ปี ปรับ 2.4 แสน – รอชงสภาฯ ถก 3 วาระรวด ย้ำวัดห้ามถือครองเงินเกิน 1 แสนบาท ส่วนเกินต้องเข้าบัญชีให้ตรวจสอบ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาสงฆ์ โดยการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 206 เพื่อให้สามารถเอาผิดพระสงฆ์กรณีเสพเมถุนได้ว่า ควรแก้ไขกฎหมายดีกว่า เพราะเป็นเรื่องของสถานที่ไม่ใช่ตัวบุคคล โดยรัฐบาลจะเร่งเจรจากับสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาเร่งด่วน 3 วาระรวดในคราวเดียว โดยระบุความผิดฐานการเสพเมถุน ทั้งพระ สามเณร หรือสามัญชน ทั้งที่ผิดวินัย และสมัครใจ ก็จะผิดกฎหมาย จะมีโทษทั้งจำคุก 1-7 ปี และปรับสูงสุด 240,000 บาท ซึ่งเบื้องต้น มีร่างแก้ไขกฎหมายเสนอมาแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่พอใจ จึงให้กลับไปแก้ไขก่อน ส่วนกรอบเวลาการแก้ไขกฎหมายให้แล้วเสร็จนั้น นายสุชาติ ระบุว่า […]

วธ.สั่งสอบกัมพูชานำ 22 วรรณกรรมไทย สอดไส้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก

15 ก.ค. – ปลัดวัฒนธรรม สั่งตรวจสอบแล้ว หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์อ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโกโดยประเทศอื่นๆ นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนบางแห่ง โดยอ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโก โดยประเทศอื่นๆ นั้น กระทรวงได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เนื่องจากกระบวนการพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรองข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ กระทรวงวัฒนธรรม ขอยืนยันว่าหากได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนแล้วจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป เขมรเคลมฉก 22 วรรณกรรมไทยสอดไส้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกแล้วก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “JanJao K. Sisprakaew” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่เขมรนำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย รายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ถูกแต่งขึ้นโดยชาวไทย แต่ถูกเขมรนำไปขึ้นทะเบียนต่อ Unesco ในหัวข้อ “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ Cultural heritage of Cambodia” วรรณกรรมไทยเหล่านี้ถูกเขมรเคลมเป็นของตนเองเพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodiaโดยเขมรอ้างว่ารายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522-2545 จากละครเรื่อง […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]