ตร.บุรีรัมย์จ่อออกหมายจับหนุ่มไลฟ์วางเพลิงเผาบ้านลูกหนี้

บุรีรัมย์ 12 ธ.ค.-ตำรวจ สภ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ แจ้งข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์” หนุ่มไลฟ์วางเพลิงเผาบ้านลูกหนี้ผ่านเฟซบุ๊ก โทษสูงสุดจำคุกถึง 20 ปี ด้านผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดถึงที่สุด


(12 ธ.ค.60) จากเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก โดยในคลิปชายคนดังกล่าวได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายและรุนแรง ลักษณะต่อว่าเจ้าของบ้านก่อนจะลงมือเทน้ำมันราดและจุดไฟเผาบ้านหลังดังกล่าวตอนกลางวันแสกๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งนี้ในคลิปชายที่จุดไฟเผา ยังระบุว่าเป็นบ้านลูกหนี้ที่ไม่ใช้หนี้คืน จากนั้นก็ลงมือราดน้ำมันและจุดไฟไปที่ผนังบ้านที่เป็นไม้ ทั้งยังพูดขู่ในคลิปด้วยว่า ไม่ใช้หนี้ ก็จะโดนเผาบ้านแบบนี้ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และแชร์ต่อกันในโลกโซเชียล


และเมื่อตรวจสอบก็พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในท้องที่ อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00-17.00 น. ของวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังสถานีตำรวจ สภ.แคนดง ท้องที่เกิดเหตุ ก็ทราบว่าได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน มาแจ้งไว้ที่ สภ.แคนดง ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายอาทิตย์ จักรคุ้ม หรือฉายา ท๊อป ฮาวดี ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 234 ม.13 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งประวัติเคยต้องโทษคดียาเสพติดด้วย

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าบริเวณฝาบ้านมีร่องรอยถูกไฟไหม้เสียหายบางส่วน เนื่องจากวันเกิดเหตุโชคดีที่มีชาวบ้านใกล้เคียงเห็นเปลวไฟจึงมาช่วยกันดับไฟไว้ได้ทัน  ทั้งยังจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย แต่ไม่พบเจ้าของบ้านเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.แคนดง พบเพียงนางเมง ชวนรัมย์ อายุ 55 ปี ชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟในวันเกิดเหตุ บอกว่า   หลังเห็นไฟไหม้ก็รีบเข้ามาช่วยแต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พึ่งมาทราบภายหลังเมื่อมีเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำพยานแวดล้อม รวมถึงเห็นคลิปที่ปรากฏในข่าว แต่ก็ไม่ทราบว่าเจ้าของบ้านหรือลูกชายเจ้าของบ้านมีปัญหาอะไรกับใคร ถึงถูกเผาบ้านแบบนี้


จากนั้นจึงได้เดินทางไปยัง สภ.แคนดง ก็พบเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำนายหัส โพธิ์เงิน เจ้าของบ้านที่ถูกจุดไฟเผา จึงได้สอบถามสาเหตุที่เกิดเหตุ ซึ่งนายหัส บอกว่า อาจจะเกิดจากสาเหตุที่ลูกชายของตนเองไปยืมเงินนายอาทิตย์ ผู้ก่อเหตุเป็นเงิน 10,000 บาท โดยที่ลูกชายก็เป็นเพื่อนกับนายอาทิตย์ ผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ทราบว่าลูกชายนำเงินไปทำอะไร แต่พอทราบมาว่าลูกชายรับปากว่าจะไปรับจ้างกรีดยางให้นายอาทิตย์ เพื่อเป็นการล้างหนี้ เหมือนเป็นการจ่ายค่าแรงล่วงหน้า หลังจากนั้นไม่รู้ว่าลูกชายได้ไปกรีดยางให้นายอาทิตย์ หรือไม่ จนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้แจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการก่อเหตุอุกอาจตอนกลางวันแสกๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ด้าน พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผกก.สภ.แคนดง ระบุว่า ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความแล้วและได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบสวนพยานแวดล้อมและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีด้วย พร้อมได้ติดตามประสานให้นายอาทิตย์ ผู้ก่อเหตุเข้ามามอบตัว แต่นายอาทิตย์ยังหลบหนีไม่มอบตัว ก็จะเร่งรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับอย่างเร่งด่วน เพราะถือเป็นการกระทำที่อุกอาจท้าทายกฎหมาย เพราะขณะก่อเหตุมีการไลฟ์สดโชว์ในโซเชียลด้วย ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อหากล่าวหา นายอาทิตย์ ฐาน “วางเพลิงเผาทรัพย์” มีโทษสูงสุดจำคุก 5 -20 ปี”

ซึ่งคาดว่านายอาทิตย์ ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ไม่ได้หลบหนีไปไหนไกล และเชื่อว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นคดีร้ายแรง และไม่อยากให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ ซึ่งอยากฝากเตือนผู้ที่นิยมไลฟ์สด หรือแสดงพฤติกรรมต่างๆ ที่ส่อไปในทางรุนแรงทางโลกโซเชียลในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เสี่ยงผิดกฎหมาย ให้คิดและไตร่ตรองดีๆ เสียก่อน เพราะผลที่ตามมาอาจรุนแรงจนนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี