สงขลา 30 พ.ย.-สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สงขลา โดยเฉพาะพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ซึ่งเป็นพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำในการปลูกข้าวจำนวนมาก ล่าสุด ได้รับผลกระทบแล้ว โดยเฉพาะที่ อ.กระแสสินธุ์ หลังน้ำท่วมนานร่วมสัปดาห์
พื้นที่นาข้าวใน อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ซึ่งถูกน้ำท่วมในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้นาข้าว 10,000 ไร่ เสียหายทั้งหมด ป้ายุพินวัย 65 ปี ชี้ให้ดูนาข้าว 30 ไร่ของป้า ที่เพิ่งจะหวานต้นกล้าได้เพียง 2 เดือน ใต้ผิวน้ำที่ท่วมสูงกว่า 1 เมตร เป็นต้นข้าวที่กำลังเติบโตเขียวคจี ที่เคยเป็นความหวังของป้า และครอบครัว หลังลงทุนลงแรงไถ่หว่านไปแล้วกว่า 30,000 บาท และเตรียมจะเก็บเกี่ยวใน 2 เดือนข้างหน้า แต่กลับมาเสียหายทั้งหมด ซ้ำรอยน้ำท่วมเมื่อปีก่อน ทำนาล่มติดต่อกัน 2 ปี
เกษตรอำเภอกระแสสินธุ์เปิดเผยว่า ในพื้นที่ อ.กระแสสินธุ์ ขณะนี้เกษตรกรได้มีการเริ่มลงมือทำนาไปแล้วกว่า 12,000 ไร่ อยู่ในพื้นที่ ต.เชิงแส 5,000 ไร่ กระแสสินธุ์ 3,000 ต.โรง 2,000 ไร่ ต.เกาะใหญ่ 300 ไร่ และจากสถานการณ์น้ำที่มีปริมาณมาก ประกอบกับเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยากแก่การระบายน้ำ ทำให้คาดว่าจะได้รับความเสียหายกว่าร้อยละ 90 ซึ่งหมายถึงเดษตรกรได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,000 ครัวเรือน
ขณะที่ ศูนย์ ปภ.เขต 12 สงขลา เร่งติดตั้งและระบายน้ำออกจากพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ โดยมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำทั้งในพื้นที่ อ.สทิงพระ สิงหนคร ร่วมกับกรมชลประทานติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน
สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ขณะนี้ยังคงทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงและท่วมขังหลายพื้นที่ ทั้งจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง และในอีกไม่กี่วันนี้ข้างหน้านี้จะมีมวลน้ำจากทางตอนเหนือและ จ.พัทลุง ไหลลงมาสมทบในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา ทำให้คาดว่าน้ำจะยังคงท่วมขังและสร้างความเสียหายให้พืชผลทางการเกษตรมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย