ทำเนียบ 23 พ.ย.- รัฐบาล หวังนำแฟลตดินแดง พัฒนาเป็น “Smart City” เนรมิตเป็นชุมชนต้นแบบ ดูแลที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย
พล.อ.นาวิน ดำริกาญจน์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบแผนแม่บทพัฒนาโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง จำนวน 20,292 หน่วย มูลค่าลงทุน 35,000 ล้านบาท เพราะเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการสร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ระยะเวลาพัฒนา 8 ปี เริ่มปี 2559-2566 โดยใช้พื้นที่ 159 ไร่ แบ่งสร้างอาคารใหม่แนวหรู 88 ไร่ และสวนสาธารณะพื้นที่สีเขียว 21 ไร่ หลังจากส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เจรจากับชาวบ้านหลายครั้งเสียงส่วนใหญ่ร้อยละ 97-98 เห็นด้วยกับแผนของรัฐบาล แต่ยืนยันไม่ย้ายออก ไม่ให้ขึ้นค่าเช่า หากสละสิทธิ์ไม่อยู่ต่อจ่ายชดเชย 4 แสนบาทต่อหลัง และยังจ่ายค่าขนย้าย 1 หมื่นบาทต่อหลัง
จึงมุ่งปรับปรุงพื้นที่เสื่อมโทรมและเป็นอันตรายจากอายุตึก จึงต้องทุบตึกเก่า 5 ชั้น ด้วยการสร้างที่อยู่อาศัยแบบทันสมัย 25 ชั้น จำนวน 11 หลัง จัดสรรให้กับผู้อยู่อาศัยเดิมจำนวน 6,547 หน่วย และกลุ่มผู้อยู่อาศัยใหม่ จำนวน 13,746 หน่วย ขนาดห้องพักพื้นที่ใช้สอย 33 ตารางเมตร ราคา 1.7 ล้านบาทต่อยูนิต โดยผู้ซื้อใหม่จ่ายเงินเซ้งเช่าระยะยาว 30 ปี ทั้งคนอยู่อาศัยใหม่และข้าราชการนับพันราย ส่วนคนอาศัยเดิมไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เพียงย้ายของเข้าอยู่ได้เลย จ่ายเพียงค่าส่วนกลาง 825 บาทต่อเดือน ไม่เกิน 1,500 บาท/เดือน ส่วนผู้เช่ารายใหม่ ค่าเช่า 8,000-10,000 บาท/เดือน เมื่อขายห้องพักให้ผู้เช้ารายใหม่ได้ประมาณ 26,000 ล้านบาท จึงไม่เป็นภาระต่อรัฐบาล
การเคหะฯ จึงเร่งก่อสร้างเฟสแรกแปลง G บริเวณที่ตั้งสำนักงานเคหะชุมชนดินแดง 1 อยู่หัวมุมถนนดินแดงตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต พื้นที่ว่างสร้างเป็นอาคาร 25 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 334 หน่วย มูลค่าลงทุน 614 ล้านบาท กำหนดสร้างเสร็จต้นปีหน้า เพื่อเปิดให้ผู้อยู่อาศัยเดิม คือ แฟลต 18-22 รวม 5 อาคาร 280 หน่วย ย้ายเข้าอยู่อาศัยในอาคารใหม่ ส่วนที่เหลืออีก 54 หน่วย เปิดให้ผู้อยู่อาศัยรายใหม่ เมื่อชาวบ้านย้ายออกมาจากแฟลตเดิม จะทำการทุบตึกและสร้างใหม่ หากสร้างเสร็จจะทยอยให้แฟลตต่อไปเข้าอยู่อาศัยเเหมือนกับเฟสแรก จึงไม่มีปัญหาการย้ายที่อยู่อาศัย
“รัฐบาลมุ่งเน้นนำแผนพัฒนาแฟลตดินแดง เนรมิตให้เป็น “Smart City” เพราะได้พัฒนาเป็นอาคารทันสมัย นำระบบกล้องวงจรปิด วางระบบไวไฟ อาคารจอดรถแสดงที่ว่างอัตโนมัติ สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งมอลล์ ตลาดนัด การให้ความรู้ชุมชน ทั้งด้านอาชีพ พัฒนาฝีมือแรงงาน การเข้าถึงแหล่งทุนจากแบงก์รัฐ ส่งเสริมการใช้เงินแบไร้เงินสดผ่าน QR Code ,E-Payment ตลาดค้าขายแบบออนไลน์ ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ 140,000 ตารางเมตร เมื่อพัฒนาจากภาพลักษ์ชุมชนแออัดไปสู่เมืองสมัยใหม่ ปัญหาชุมชนทั้งอาชญกรรม ยาเสพติดจะลดน้อยลง ใช้ระบบดูแลชุมชนผ่านหัวหน้าเครือข่ายที่ชุมชนนับถือ สร้างกฎระเบียบร่วมกันในอาคารชุด เมื่อพัฒนาชุมชนใจกลางเมืองให้มีความเป็นอยู่แบบทันสมัยจะได้นำรูปแบบไปใช้พัฒนาชุมชนคลองเตย ชุมชนบ่อนไก่ และชุมชนอื่นในต่างจังหวัด “ พล.อ.นาวิน กล่าว
สำหรับแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยมี 4 ระยะ ในระยะแรก ก่อสร้างอาคารแรกบริเวณแปลง G เป็นอาคารสูง 25 ชั้น 1 อาคาร 334 หน่วย รองรับผู้อาศัยเดิม 5 อาคาร แฟลต 18-22 จำนวน 280 หน่วย ระยะที่ 2 ก่อสร้างอาคารใหม่ในพื้นที่แปลง A และ D1 ทดแทนอาคารที่รื้อถอนในระยะที่ 1 จำนวน 1,247 หน่วย เป็นอาคารสูง 31 ชั้น 1 อาคาร 635 หน่วย และสูง 5 ชั้น 1 อาคาร 612 หน่วย รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม 1,160 หน่วย
ระยะที่ 3 สร้างอาคารใหม่ในพื้นที่แปลง A และ D1 ทดแทนอาคารที่รื้อถอนระยะที่ 2 จำนวน 3,333 หน่วย เป็นอาคารสูง 32 ชั้น 3 อาคาร 1,905 หน่วย และสูง 35 ชั้น 2 อาคาร 1,425 หน่วย รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม 3,056 หน่วย และระยะที่ 4 สร้างอาคารใหม่แปลง C แทนอาคารที่รื้อถอนในระยะที่ 3 จำนวน 1,632 หน่วย เป็นอาคารสูง 35 ชั้น 3 อาคาร รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม 1,350 หน่วย.-สำนักข่าวไทย