การเคหะฯ ผนึกกำลังเขตดินแดง ลอกท่อล่าหนู

แฟลตดินแดง 8 ก.ค.- การเคหะแห่งชาติ ร่วมเขตดินแดง ปฏิบัติลอกท่อล่าหนู พบปัญหาหลักคือขยะในชุมชนมีมาก และพื้นอาคารทรุด ปมแหล่งที่อยู่หนู เตือนหนูท่อที่พบเป็นหนูนอร์เวย์ ห้ามบริโภคเด็ดขาด มีกลิ่นสาบแหล่งเชื้อโรค


นายนิวัฒน์ ดวงจิโน ผอ.เขตดินแดง พร้อมด้วยตัวแทนจากการเคหะแห่งชาติ ปฏิบัติการกำจัดหนูในโครงการเคหะชุมชนดินแดงแฟลต 5-8 ซึ่งมีรายงานว่าเป็นอาคารที่พบหนูมากที่สุด โดยวันนี้เจ้าหน้าที่จากเขตได้ร่วมกันขุดลอกท่อโดยรอบอาคาร ผู้อำนวยการเขตดินแดง ระบุสาเหตุส่วนหนึ่งที่แฟลตดังกล่าวพบหนูจำนวนมากนั้นเกิดจากพื้นอาคารทรุดตัวเพราะเป็นอาคารที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2506 ทำให้ด้านล่างมีโพรงใต้ดินจากอาคารทรุดตัว เป็นที่อยู่อาศัยของหนูจำนวนมาก และส่วนหนึ่งเกิดจากรูปแบบอาคารที่เป็นแบบเก่ามีช่องให้หย่อนทิ้งขยะจากด้านบนลงมาชั้นล่าง ทำให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ขยะหมักหมมได้ง่าย ประกอบกับหนึ่งสาเหตุหลักคือปัญหาขยะที่ผู้คนที่อาศัยอยู่ทิ้งขยะนอกจุดทิ้ง ที่เขตกำหนดไว้และขยะก็สะสมจนเป็นแหล่งอาหารของหนู โดยยอมรับว่าการจัดการพื้นที่ในแฟลตเป็นเรื่องของการเคหะฯ กทม.มีหน้าที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บ กำหนดสัปดาห์หนึ่งเก็บ 2 ครั้ง โดยหลังจากเมื่อวานนี้ได้วางกรงดักหนูไว้จำนวน 12 กรง ก็พบว่าได้ผล จับหนูได้จำนวนมากซึ่งได้มีการสุ่มตัวอย่างหนูส่วนหนึ่งไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อโรคในหนู

ผอ.เขตดินแดง ยังระบุว่า ขอร้องประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ห้ามมิให้อาหารหนู ซึ่งทราบมาว่าบุคคลที่อาศัยอยู่ในอีกอาคารหนึ่ง มักนำอาหารบอกว่าสงสาร อยากให้อาหารหนูซึ่งกระทบกับคนในอาคารแฟลตที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และเกิดการทะเลาะกันบ่อยครั้ง โดยเขตจะดำเนินการเตือนก่อน แต่หากยังไม่ปฏิบัติตามก็จะมีความผิดทางกฎหมายมีโทษปรับ โดยเจ้าหน้าที่จะช่วยกันทำความสะอาดบริเวณฝาท่อขยะอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ที่ให้อาหารหนู และขอให้ประชาชนทิ้งขยะให้เป็นที่ และไม่นำออกมาทิ้งข้างนอกไม่ทิ้งลงท่อ นอกจากนี้ยังประชาสัมพันธ์ว่าห้ามนำหนูมาบริโภคเป็นอันขาด เพราะหนูในพื้นที่ดังกล่าวเป็นหนูนอร์เวย์เป็นสายพันธุ์ที่ไม่สามารถรับประทานได้และเป็นแหล่งเชื้อโรค


การเคหะแห่งชาติ เผยว่าในระยะยาวการเคหะแห่งชาติได้วางแผนสร้างอาคารแฟลตใหม่แทนที่อาคารเดิมแล้ว แต่คาดว่าน่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะแล้วเสร็จทำให้ต้องมีการจัดการบริเวณอาคารแฟลตที่พบปัญหาหนูในการแก้ไขให้ได้ระยะยาวและเป็นการลดปัญหาขยะและแหล่งสะสมเชื้อโรคในพื้นที่โดยรอบด้วย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”