กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 20 พ.ย. – ปภ.รายงานยังมีพื้นที่น้ำท่วม 4 จังหวัด พิจิตร พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น มหาสารคาม เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือผู้ประสบภัย เตือนภาคเหนือและภาคกลางมีฝน 20-21 พ.ย.นี้ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยจากสภาพอากาศแปรปรวนและภาวะฝนตกหนัก จากนั้นอากาศจะเย็นลงและมีลมแรง
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่ง จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม – 20 พฤศจิกายน 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ 23 จังหวัด รวม 79 อำเภอ 482 ตำบล 2,825 หมู่บ้าน 38 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 126,390ครัวเรือน 327,420 คน ผู้เสียชีวิต 24 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น และมหาสารคาม รวม 12 อำเภอ 76 ตำบล 545 หมู่บ้าน 35,930 ครัวเรือน 80,021 คน อพยพ 40 ครัวเรือน
อธิบดี ปภ. กล่าวว่า ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ทั้งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยที่ครอบคลุม ทั้งด้านการดำรงชีพ ชีวิต ทรัพย์สินจากการประกอบอาชีพ และสิ่งสาธารณประโยชน์
นายชยพล กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 20-21 พฤศจิกายนนี้ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ และคาดว่าจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือและภาคกลางในระยะต่อไป ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอากาศจะเย็นลงและมีลมแรง ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยจากสภาพอากาศแปรปรวนและภาวะฝนตกหนัก โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย