บุรีรัมย์ 12 พ.ย.-เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพยุงราคาไม่ให้ต่ำกว่า กก.ละ 2.50 บาท รวมทั้งขอให้ออกมาตรการจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือเหมือนชาวนา หลังราคามันตกต่ำเหลือเพียง กก.ละ 1.5 บาท ซึ่งไม่คุ้มทุน แต่จำใจต้องขายเพราะไม่มีทางเลือก
เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ต้องเร่งเก็บหัวมันสำปะหลังไปขายให้แก่ลานมันในพื้นที่ แม้จะมีราคาตกต่ำเหลือเพียง กก.ละ 1.50 บาท ซึ่งไม่อยู่ที่จุดคุ้มทุน โดยเกษตรกรบอกว่า ที่ต้องเร่งเก็บหัวมันไปขายในช่วงนี้ เพราะจำเป็นต้องนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว จึงไม่สามารถชะลอการเก็บเกี่ยวได้ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลหรือกระทรวงพาณิชย์ เข้ามาพยุงราคามันสำปะหลัง ไม่ให้ต่ำกว่า กก.ละ 2.50 บาท
รวมทั้งอยากให้รัฐบาลพิจารณาออกมาตรการจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง แบบเดียวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือชาวนาด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร เพราะหากรัฐบาลไม่ช่วยเหลือพยุงราคามันสำปะหลัง เกษตรกรก็จะไม่มีเงินไปชำระหนี้ ธกส.ที่กู้ยืมมาลงทุนทำไร่มันรายละไม่ต่ำกว่าหลักแสนบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
จากข้อมูลพบว่า ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์มีเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกว่า 12,000 ราย ในพื้นที่ 12 อำเภอ มีพื้นที่เพาะปลูกรวมกว่า 300,000 ไร่ ปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 1.2 ล้านตัน อำเภอที่ปลูกมากที่สุด คือ อ.ปะคำ โนนสุวรรณ ละหานทราย และบ้านกรวด
นายไสว โล่นารายณ์ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า ประสบปัญหาราคามันตกต่ำมา 3-4 ปีต่อเนื่องแล้ว แต่เกษตรกรก็ไม่มีทางเลือก เพราะไม่รู้จะประกอบอาชีพอะไร เพราะเคยทำไร่มันมาหลายปีแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำอย่างเร่งด่วนด้วย เพราะขณะนี้เกษตรกรนำหัวมันไปขายให้กับผู้ประกอบการลานมันได้ราคาเพียง กก.ละ 1.50 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรไม่สามารถอยู่ได้ เพราะไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต จึงอยากให้รัฐบาลช่วยพยุงราคาให้สูงขึ้นเป็น กก.ละ 2.50 บาท.-สำนักข่าวไทย